วันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2557

หลักการตีความในกฎหมายทั่วไป (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์)

หลักการตีความในกฎหมายทั่วไป
"กฎหมายนั้นต้องใช้ในบรรดากรณีซึ่งต้องด้วยบทบัญญัติใดๆ แห่งกฎหมายตามตัวอักษร หรือตามความมุ่งหมายของบทบัญญัตินั้นๆ" (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์)


ดังนั้นการตีความในกฎหมายทั่วไปจึงแบ่งได้ 2 วิธี คือ

การตีความตามตัวอักษร

คือการทราบความหมายจากตัวอักษรของกฎหมายนั่นเอง
หลักการสำคัญของการตีความตามตัวอักษรมีดังนี้ 
  • กรณีที่กฎหมายใช้ภาษาสามัญต้องตีความตามความหมายสามัญที่ใช้กันอยู่โดยทั่วไปหรือให้ถือตามพจนานุกรม
  • กรณีที่กฎหมายใช้ภาษาเทคนิคหรือภาษาทางวิชาการต้องเข้าใจความหมายตามที่เข้าใจกันในทางเทคนิคหรือในทางวิชาการนั้นๆ (เช่น ศัพท์ทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม เป็นต้น)
  • กรณีที่ภาษาหรือถ้อยคำที่ใช้มีคำนิยามโดยเฉพาะในทางกฎหมายต้องตีความตามคำนิยามที่กฎหมายให้ไว้โดยเฉพาะ (คำเทคนิคในทางวิชาการกฎหมาย)
  • กรณีที่ตัวบทกฎหมายภาษาไทยไม่ชัดเจน ให้ดูตัวบทภาษาอังกฤษประกอบด้วย

การตีความตามเจตนารมณ์ 
คือการทราบความหมายจากถ้อยคำในบทกฎหมายจากเจตนารมณหรือความมุ่งหมายของกฎหมายนั้นๆ

หลักการสำคัญของการตีความตามเจตนารมณ์ 
  • ดูจากชื่อของกฎหมายนั้น
  • ศึกษาจากคำขึ้นต้นของกฎหมาย เช่น พระราชปรารภในกรณีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ จะกล่าวถึงประวัติความเป็นมาของรัฐธรรมนูญนั้น)
  • ศึกษาจากหมายเหตุท้ายกฎหมาย
  • ศึกษากฎหมายทั้งฉบับโดยตลอดหรือพิจารณามาตราต่าง
  • ศึกษาประวัติ ฐานะ และพฤติการณ์ที่เป็นอยู่ก่อนวันใช้บังคับกฎหมาย
  • ต้องถือว่ากฎหมายมีความมุ่งหมายในทางที่จะใช้บังคับได้
  • ต้องถือว่ากฎหมายที่บัญญัติเป็นข้อยกเว้นจากหลักทั่วไปหรือที่จำกัดหรือตัดสิทธิและเสรีภาพของราษฎรไม่มีความมุ่งหมายจะให้ขยายความออกไป

Please Give Us Your 1 Minute In Sharing This Post!
SOCIALIZE IT →
FOLLOW US →
SHARE IT →
Powered By: BloggerYard.Com

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คลังบทความของบล็อก