วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2557

ประโยชน์ของการจดทะเบียนสมรส

การจดทะเบียนสมรส นอกจากกฏหมายจะถือว่า ชายหญิงคู่นั้น ได้เป็นสามีภริยากันตามกฏหมายแล้ว 
ยังมีผลที่ตามมาอีกหลายประการ เช่น 
(๑) เป็นหลักประกันความมั่นคงได้ว่า ถ้าได้มีการจดทะเบียนแล้ว คู่สมรสอีกฝ่ายจะไปจดทะเบียนสมรส 
อีกไม่ได้ ถ้าฝ่าฝืนไปทำการจดทะเบียนเข้า ผลคือ การจดทะเบียนสมรส ครั้งนี้ กฏหมายถือว่า 
เป็น โมฆะ (ใช้ไม่ได้) ผู้มีส่วนได้เสียคนใดคนหนึ่ง จะแจ้งให้นายทะเบียนเพิกถอน หรือจะร้องขอ 
ให้ศาลพิพากษาก็ได้ นอกจากนี้ คู่สมรสฝ่ายที่ไปจดทะเบียนซ้อน มีความผิดฐานแจ้งความเท็จ 

(๒) ได้รับการลดหย่อนค่าภาษีเงินได้ 

(๓) ในกรณีที่เป็นความผิดที่กระทำระหว่างสามีภรรยา เช่น สามี หรือภริยา ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ลักทรัพย์ 
ของอีกฝ่ายหนึ่ง หรือในความผิดฐานอื่น เช่น ฉ้อโกง ยักยอก ทำให้เสียทรัพย์ หรือบุกรุก 
ซึ่งมีผลคือ สามีหรือภริยา นั้นไม่ต้องรับโทษตามกฏหมาย 

(๔) ในเรื่องอำนาจในการดำเนินคดีอาญาแทน ถ้าสามีภริยาถูก ทำร้ายถึงตายหรือบาดเจ็บจนไม่ 
สามารถฟ้องคดีได้เอง ภริยาหรือสามีที่ยังมีชีวิตอยู่ (ที่ได้จดทะเบียนตามกฏหมาย) สามารถ 
ร้องทุกข์ (แจ้งความ) ต่อตำรวจหรือฟ้องศาลแทนได้ 
แต่อย่างไรก็ตาม ต้องเป็นกรณีที่ผู้ตายหรือผู้บาดเจ็บไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดด้วย 
นอกจากนี้ ในคดีหมื่นประมาทที่กระทำต่อสามีหรือภริยา ถ้าต่อมาสามีหรือภริยานั้นได้ตาย 
ก่อนร้องทุกข์ (แจ้งความ) ภริยาหรือสามีที่ยังมีขีวิตอยู่ก็ร้องทุกข์หรือ ฟ้องหมิ่นประมาทได้เอง 
เพราะกฏหมายให้ถือว่า เป็นผู้เสียหาย 

(๕) ถ้าคู่สมรสเป็นผู้เยาว์ที่มีอายุ ๑๗ ปีขึ้นไป เมื่อได้จดทะเบียนสมรสแล้ว กฏหมายถือว่า ผู้นั้นได้ 
บรรลุนิติภาวะแล้ว และสามารถทำกิจการงานต่างๆ ได้เอง โดยไม่ต้องเป็นได้รับความยินยอม 
จากบิดามารดา หรือผู้ปกครอง และแม้จะหย่ากันก่อนอายุ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ก็ยังคงเป็น 
ผู้บรรลุนิติภาวะอยู่

วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

กฏหมายเกี่ยวกับมรดก - ลำดับชั้นทายาทเท่ากันจะแบ่งอย่างไร

หลังจากที่เราทำความเข้าใจเกี่ยวกับลำดับชั้นของทายาทโดยธรรมแล้ว เราก็สามารถเรียงลำดับได้ว่าใครจะเป็นผู้ได้รับมรดก และหากว่ามีคนที่อยู่ในลำดับเดีวกันจะทำอย่างไร เช่น นายเอ มีบุตรหลายคน วันหนึ่ง นายเอ เสียชีวิต บุตรแต่ละคนจะได้รับมรดกอย่างไร 

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ6 มรดก ลักษณะ2 สิทธิโดยธรรมในการรับมรดก หมวด3 การแบ่ง ส่วนมรดกของทายาทโดยธรรม ในลำดับและชั้นต่าง ๆส่วนที่1 ญาติ

ส่วนที่ 1 ญาติ

  • มาตรา 1632 ภายใต้บังคับแห่ง มาตรา 1629 วรรคสุดท้าย การแบ่งส่วนมรดกของทายาทโดยธรรมในลำดับญาติให้เป็นไปตามบทบัญญัติใน ส่วนที่ 1 แห่งหมวดนี้
  • มาตรา 1633 ทายาทโดยธรรมในลำดับเดียวกันในลำดับหนึ่ง ๆ ที่ระบุไว้ใน มาตรา 1629 นั้นชอบที่จะได้รับส่วนแบ่งเท่ากัน ถ้าใน ลำดับหนึ่งมีทายาทโดยธรรมคนเดียว ทายาทโดยธรรมคนนั้นมีสิทธิ ได้รับส่วนแบ่งทั้งหมด 
  • มาตรา 1634 ระหว่างผู้สืบสันดานที่รับมรดกแทนที่กันในส่วนแบ่ง ของสายหนึ่ง ๆ ตามบทบัญญัติในลักษณะ 2 หมวด 4 นั้นให้ได้รับ ส่วนแบ่งมรดกดั่งนี้
    • (1) ถ้ามีผู้สืบสันดานต่างชั้นกัน บุตรของผู้ตายซึ่งอยู่ในชั้นสนิทที่สุด เท่านั้นมีสิทธิรับมรดก ผู้สืบสันดานในชั้นถัดลงไปจะรับมรดกได้ก็แต่ โดยอาศัยสิทธิในการรับมรดกแทนที่
    • (2) ผู้สืบสันดานในชั้นเดียวกันได้รับส่วนแบ่งเท่ากัน
    • (3) ถ้าในชั้นหนึ่งมีผู้สืบสันดานคนเดียว ผู้สืบสันดานคนนั้นมีสิทธิ ได้รับส่วนแบ่งทั้งหมด

จากประมวลนี้ เราก็ได้คำตอบแล้วว่า การแบ่งสมบัติระหว่างทายาทที่อยู่ลำดับเดียวกัน จะแบ่งให้เท่าๆกัน หากในลำดับแรกสุดที่จะได้มรดกมีคนเดียว ก็ให้ผู้นั้นนั้นทั้งหม แค่นี้เอง ไม่ยากเลย 

กฎหมายเกี่ยวกับมรดก - ลำดับและชั้น ของทายาทโดยธรรม

เคยสงสัยไหมคะว่า เราเป็นทายาทโดยธรรม คนนั้นก็เป็นทายาทโดยธรรม คนนี้ก็เป็น อ้าว แล้วเค้าจะเรียงลำดับทายาทยังไง พ่อ แม่ ปู่ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา แล้วมรดกจะตกถึงใครกันหล่ะเนี่ย ในหัวข้อนี้มีคำตอบ 

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ6 มรดก ลักษณะ2 สิทธิโดยธรรมในการรับมรดก หมวด2 การแบ่งทรัพย์มรดกระหว่างทายาทโดยธรรม ในลำดับและชั้นต่าง ๆ 

หมวด 2 การแบ่งทรัพย์มรดกระหว่างทายาท โดยธรรมในลำดับและชั้นต่าง ๆ

  • มาตรา 1629 ทายาทโดยธรรมมีหกลำดับเท่านั้น และภายใต้บังคับ แห่ง มาตรา 1630 วรรค 2 แต่ละลำดับมีสิทธิได้รับมรดกก่อนหลังดั่ง ต่อไปนี้ คือ
    • (1) ผู้สืบสันดาน
    • (2) บิดามารดา
    • (3) พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน
    • (4) พี่น้องร่วมบิดาหรือร่วมมารดาเดียวกัน
    • (5) ปู่ ย่า ตา ยาย 
    • (6) ลุง ป้า น้า อา 

คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นก็เป็นทายาทโดยธรรม ภายใต้บังคับของ บทบัญญัติพิเศษแห่ง มาตรา 1635 

  • มาตรา 1630 ตราบใดที่มีทายาทซึ่งยังมีชีวิตอยู่หรือมีผู้รับมรดกแทน ที่ยังไม่ขาดสายแล้วแต่กรณีในลำดับหนึ่ง ๆ ที่ระบุไว้ใน มาตรา 1629 ทายาทผู้ที่อยู่ในลำดับถัดลงไปไม่มีสิทธิในทรัพย์มรดกของผู้ตายเลย

แต่ความในวรรคก่อนนี้มิให้ใช้บังคับในกรณีเฉพาะที่มีผู้สืบสันดานคนใด ยังมีชีวิตอยู่หรือมีผู้รับมรดกแทนที่กันแล้วแต่กรณีและมีบิดามารดายังมีชีวิต อยู่ในกรณีเช่นนั้นให้บิดามารดาได้ส่วนแบ่งเสมือนหนึ่งว่าเป็นทายาทชั้นบุตร 


  • มาตรา 1631 ในระหว่างผู้สืบสันดานต่างชั้นกันนั้น บุตรของเจ้า มรดกอันอยู่ในชั้นสนิทที่สุดเท่านั้นมีสิทธิรับมรดก ผู้สืบสันดานที่อยู่ใน ชั้นถัดลงไปจะรับมรดกได้ก็แต่โดยอาศัยสิทธิในการรับมรดกแทน
จะเห็นได้ว่าลำดับลำดับชั้นของทายาทถูกกำหนดไว้แล้ว ก็เหมือนการต่อแถว หากมีคนหน้าเราก็ลัดคิวไม่ได้ หากคนลำดับข้างหน้าออกจากแถวไป ลำดับต่อไปก็รับสิทธิตัวนั้นแทน 

วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

กฎหมายเกี่ยวกับมรดก สิทธิโดยธรรมในการรับมรดก หมวด1 บทเบ็ดเสร็จทั่วไป

หลายคนอาจจะเคยสงสัยว่า ทายาทโดยธรรมคืออะไร หากไม่ได้เขียนพินัยกรรมมรดกจะตกถึงใคร หากเป็นพระภิกษุเป็นผู้รับมรดกได้ไหม และทรัพย์สินของพระภิกษุจะตกทอดแก่ใคร บุตรนอกกฎหมายจะรับมรดกได้ไหม  ในเรื่องนี้มีคำตอบมาฝาก
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ6 มรดก ลักษณะ2 สิทธิโดยธรรมในการรับมรดก หมวด1 บทเบ็ดเสร็จทั่วไป 
ลักษณะ 2 สิทธิโดยธรรมในการรับมรดก หมวด 1 บทเบ็ดเสร็จทั่วไป
Topมาตรา 1620 ถ้าผู้ใดตายโดยไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ หรือทำพินัยกรรม ไว้แต่ไม่มีผลบังคับได้ ให้ปันทรัพย์มรดกทั้งหมดแก่ทายาทโดยธรรมของ ผู้ตายนั้นตามกฎหมาย
ถ้าผู้ใดตายโดยได้ทำพินัยกรรมไว้ แต่พินัยกรรมนั้นจำหน่ายทรัพย์หรือ มีผลบังคับได้แต่เพียงบางส่วนแห่งทรัพย์มรดก ให้ปันส่วนที่มิได้จำหน่าย โดยพินัยกรรม หรือส่วนที่พินัยกรรมไม่มีผลบังคับให้แก่ทายาทโดยธรรม ตามกฎหมาย
Topมาตรา 1621 เว้นแต่ผู้ทำพินัยกรรมจะได้แสดงเจตนากำหนดไว้ในพินัย กรรมเป็นอย่างอื่น แม้ทายาทโดยธรรมคนใดจะได้รับทรัพย์สินอย่างหนึ่ง อย่างใดตามพินัยกรรม ทายาทคนนั้นก็ยังมีสิทธิที่จะเรียกเอาส่วนโดย ธรรมของตนจากทรัพย์มรดกส่วนที่ยังไม่ได้จำหน่ายโดยพินัยกรรมจน เต็มอีกก็ได้
Topมาตรา 1622 พระภิกษุนั้น จะเรียกร้องเอาทรัพย์มรดกในฐานะที่ เป็นทายาทโดยธรรมไม่ได้ เว้นแต่จะได้สึกจากสมณเพศมาเรียกร้อง ภายในกำหนดอายุความตาม มาตรา 1754
แต่พระภิกษุนั้น อาจเป็นผู้รับพินัยกรรมได้
Topมาตรา 1623 ทรัพย์สินของพระภิกษุที่ได้มาในระหว่างเวลาที่อยู่ ในสมณเพศนั้น เมื่อพระภิกษุนั้นถึงแก่มรณภาพ ให้ตกเป็นสมบัติของ วัดที่เป็นภูมิลำเนาของพระภิกษุนั้น เว้นไว้แต่พระภิกษุนั้นจะได้จำหน่าย ไปในระหว่างชีวิตหรือโดยพินัยกรรม
Topมาตรา 1624 ทรัพย์สินใดเป็นของบุคคลก่อนอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ทรัพย์สินนั้นหาตกเป็นสมบัติของวัดไม่ และให้เป็นมรดกตกทอดแก่ ทายาทโดยธรรมของบุคคลนั้น หรือบุคคลนั้นจะจำหน่ายโดยประการใด ตามกฎหมายก็ได้
Topมาตรา 1625 ถ้าผู้ตายเป็นผู้สมรสแล้วการคิดส่วนแบ่งและการปัน ทรัพย์สินระหว่างผู้ตายกับคู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่นั้น ให้เป็นไปดั่งนี้
(1) ในเรื่องส่วนแบ่งในทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา ให้อยู่ในบังคับ ของบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ว่าด้วยการหย่าโดยยินยอม ทั้งสองฝ่ายอันมีบทบัญญัติเพิ่มเติมให้บริบูรณ์ใน มาตรา 1637 และ มาตรา 1638 และโดยเฉพาะต้องอยู่ในบังคับแห่ง มาตรา 1513 ถึง มาตรา 1517 แห่งประมวลกฎหมายนี้แต่การคิดส่วนแบ่งนั้นมีผลตั้งแต่วันที่การ สมรสได้สิ้นไปด้วยเหตุความตายนั้น
(2) ในเรื่องส่วนแบ่งในทรัพย์มรดกของผู้ตาย ให้อยู่ในบังคับของ บทบัญญัติแห่งบรรพนี้ นอกจาก มาตรา 1637 และ มาตรา 1638
Topมาตรา 1626 เมื่อได้ปฏิบัติตาม มาตรา 1625 (1) แล้ว ให้คิดส่วน แบ่งทรัพย์มรดกระหว่างทายาทโดยธรรมดั่งต่อไปนี้
(1) ทรัพย์มรดกนั้นให้แบ่งแก่ทายาทตามลำดับและชั้นต่าง ๆ ดั่งที่ บัญญัติไว้ในหมวด 2 แห่งลักษณะนี้
(2) ส่วนแบ่งอันจะได้แก่ทายาทในลำดับและชั้นต่าง ๆ นั้นให้แบ่ง ในระหว่างบรรดาทายาทในลำดับและชั้นนั้น ๆ ดั่งที่บัญญัติไว้ในหมวด 3 แห่งลักษณะนี้
Topมาตรา 1627 บุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้รับรองแล้วและบุตรบุญธรรม นั้นให้ถือว่าเป็นผู้สืบสันดานเหมือนกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายตามความ หมายแห่งประมวลกฎหมายนี้
Topมาตรา 1628 สามีภริยาที่ร้างกันหรือแยกกันอยู่โดยยังมิได้หย่าขาด จากกันตามกฎหมาย มิได้สิ้นไปซึ่งสิทธิโดยธรรมในการสืบมรดกซึ่งกัน และกัน

จะเห็นได้ว่า กฎหมายมีรายละเอียดมากมาย ผู้ที่ศึกษากฎหมาย จะทำให้เข้าใจในสิทธิของตน หลังจากอ่านจบเราก็หาคำตอบดังกล่าวได้แล้วนะคะ ว่าทายาทโดยธรรมคืออะไร แล้วมรดกของพระภิกษุจะทำอย่างไร ในตอนหน้ามีประมวลเกี่ยวกับการแบ่งมรดกระหว่างทายาทมาฝากค่ะ

วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

กฎหมายเกี่ยวกับมรดก - การสละมรดกและอื่นๆ

ดิฉันขอสละมรดกนะคะ คุณพ่อยกสมบัติให้ลูกสาวแท้ๆของคุณพ่อเถอะค่ะ ดิฉันขอตัวกลับบ้านนอกดีกว่าค่ะ สมบัติอะไรก็ไม่สำคัญกับดิฉันแล้วค่ะ ดิฉันจะทำได้ไหม คุณทนายแนะนำหน่อยค่ะ ...

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ6 มรดก ลักษณะ1 บทเบ็ดเสร็จทั่วไป หมวด4 การสละมรดกและอื่น ๆ 


  • มาตรา 1610 ถ้ามรดกตกทอดแก่เยาว์ หรือบุคคลวิกลจริตหรือ บุคคลผู้ไม่สามารถจะจัดทำการงานของตนเองได้ตามความหมายแห่ง มาตรา 32 แห่งประมวลกฎหมายนี้ และบุคคลนั้นยังไม่มีผู้แทนโดย ชอบธรรม หรือผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ เมื่อผู้มีส่วนได้เสียหรือพนักงาน อัยการร้องขอ ก็ให้ศาลตั้งผู้ปกครอง ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ แล้วแต่กรณี 

หมายเหตุอ่านมาตรา 1610 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ.ให้ใช้บทบัญญัติบรรพ 1 แห่งปพพ.ที่ได้ตรวจชำระใหม่ พ.ศ.2535

  • มาตรา 1611 ทายาทซึ่งเป็นผู้เยาว์ บุคคลวิกลจริต หรือบุคคลผู้ไม่ สามารถจะจัดทำการงานของตนเองได้ตามความหมายแห่ง มาตรา 32 แห่งประมวลกฎหมายนี้ จะทำการดั่งต่อไปนี้ไม่ได้ เว้นแต่จะได้รับ ความยินยอมของบิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ แล้วแต่กรณีและได้รับอนุมัติจากศาลแล้ว คือ
    • (1) สละมรดก
    • (2) รับมรดกอันมีค่าภาระติดพันหรือเงื่อนไข 

หมายเหตุอ่านมาตรา 1611 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ. ให้ใช้บทบัญญัติบรรพ 1 แห่งปพพ.ที่ได้ตรวจชำระใหม่ พ.ศ.2535

  • มาตรา 1612 การสละมรดกนั้น ต้องแสดงเจตนาชัดแจ้งเป็นหนังสือ มอบไว้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ หรือทำเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ 
  • มาตรา 1613 การสละมรดกนั้น จะทำแต่เพียงบางส่วน หรือทำโดยมี เงื่อนไข หรือเงื่อนเวลาไม่ได้ การสละมรดกนั้น จะถอนเสียมิได้ 
  • มาตรา 1614 ถ้าทายาทสละมรดกด้วยวิธีใดโดยที่รู้อยู่ว่าการที่ทำเช่น นั้นจะทำให้เจ้าหนี้ของตนเสียเปรียบ เจ้าหนี้มีสิทธิที่จะร้องขอให้เพิกถอน การสละมรดกนั้นเสียได้ แต่ความข้อนี้มิให้ใช้บังคับ ถ้าปรากฏว่าในขณะ ที่สละมรดกนั้น บุคคลซึ่งเป็นผู้ได้ลาภงอกแต่การนั้นมิได้รู้เท่าถึงข้อความจริงอันเป็นทางให้เจ้าหนี้ต้องเสียเปรียบนั้น ด้วยแต่หากกรณีเป็นการสละ มรดกโดยเสน่หาเพียงแต่ทายาทผู้สละมรดกเป็นผู้รู้ฝ่ายเดียวเท่านั้นก็พอ แล้วที่จะขอเพิกถอนได้

เมื่อได้เพิกถอนการสละมรดกแล้ว เจ้าหนี้จะร้องขอให้ศาลสั่งเพื่อให้ตน รับมรดกแทนที่ทายาทและในสิทธิของทายาทนั้นก็ได้
ในกรณีเช่นนี้ เมื่อได้ชำระหนี้ของทายาทนั้นให้แก่เจ้าหนี้แล้ว ถ้าส่วน ของทายาทนั้นยังมีเหลืออยู่อีก ก็ให้ได้แก่ผู้สืบสันดานของทายาทนั้นหรือทายาทอื่นของเจ้ามรดกแล้วแต่กรณี

  • มาตรา 1615 การที่ทายาทสละมรดกนั้น มีผลย้อนหลังไปถึงเวลาที่เจ้า มรดกตาย 

เมื่อทายาทโดยธรรมคนใดสละมรดก ผู้สืบสันดานของทายาทคนนั้นสืบมรดกได้ตามสิทธิของตน และชอบที่จะได้รับส่วนแบ่งเท่ากับส่วนแบ่งที่ผู้สละ มรดกนั้นจะได้รับแต่ผู้สืบสันดานนั้น ต้องไม่ใช่ผู้ที่บิดามารดา ผู้ปกครอง หรือ ผู้อนุบาลแล้วแต่กรณี ได้บอกสละมรดกโดยสมบูรณ์ในนามของผู้สืบสันดานนั้น

  • มาตรา 1616 ถ้าผู้สืบสันดานของผู้สละมรดกได้มรดกมาดั่งกล่าว ไว้ใน มาตรา 1615 แล้ว ผู้ที่ได้สละมรดกนั้นไม่มีสิทธิในส่วนทรัพย์สิน อันผู้สืบสันดานของตนได้รับมรดกมาในอันที่จะจัดการและใช้ดั่งที่ระบุ ไว้ในบรรพ 5 ลักษณะ 2 หมวด 3 แห่งประมวลกฎหมายนี้และให้ใช้ มาตรา 1548 บังคับโดยอนุโลม 
  • มาตรา 1617 ผู้รับพินัยกรรมคนใดสละมรดก ผู้นั้นรวมตลอดทั้ง ผู้สืบสันดานไม่มีสิทธิจะรับมรดกที่ได้สละแล้วนั้น 
  • มาตรา 1618 ถ้าทายาทโดยธรรมผู้ที่ได้สละมรดกไม่มีผู้สืบสันดาน ที่จะรับมรดกได้ หรือผู้รับพินัยกรรมได้สละมรดก ให้ปันส่วนแบ่งของผู้ที่ ได้สละมรดกนั้น ๆ แก่ทายาทอื่นของเจ้ามรดกต่อไป 
  • มาตรา 1619 ผู้ใดจะสละหรือจำหน่ายจ่ายโอนโดยประการใดซึ่งสิทธิ อันหากจะมีในภายหน้าในการสืบมรดกผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นไม่ได้


วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

กฎหมายเกี่ยวกับมรดก - การตัดมิให้รับมรดก

กรี้ดดด ทำไมคุณพ่อไม่ยกมรดกให้หนูคะ ยกให้ยัยลูกเลี้ยงคนนั้นทำไม เดี้ยนไม่ยอมมมม เอาหล่ะซิคะ ในเมื่อเราเป็นทายาทสืบสายเลือด จะโดนตัดออกจากกองมรดกได้ด้วยหรือ วันนี้มีคำตอบมาบอกค่ะ ประมวลกฎหมายที่เกี่ยวกับการตัดออกจากกองมรดก คือ 



ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ6 มรดก ลักษณะ1 บทเบ็ดเสร็จทั่วไป
หมวด 3 การตัดมิให้รับมรดก
  • มาตรา 1608 เจ้ามรดกจะตัดทายาทโดยธรรมของตนคนใดมิให้รับ มรดกก็ได้แต่ด้วยแสดงเจตนาชัดแจ้ง
    • (1) โดยพินัยกรรม
    • (2) โดยทำเป็นหนังสือมอบไว้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่
ตัวทายาทผู้ถูกตัดมิให้รับมรดกนั้นต้องระบุไว้ให้ชัดเจน
แต่เมื่อบุคคลใดได้ทำพินัยกรรมจำหน่ายทรัพย์มรดกเสียทั้งหมดแล้ว ให้ถือว่าบรรดาทายาทโดยธรรมผู้ที่มิได้รับประโยชน์จากพินัยกรรมเป็น ผู้ถูกตัดมิให้รับมรดก

  • มาตรา 1609 การแสดงเจตนาตัดมิให้รับมรดกนั้น จะถอนเสียก็ได้

ถ้าการตัดมิให้รับมรดกนั้นได้ทำโดยพินัยกรรม จะถอนเสียได้ก็แต่ โดยพินัยกรรมเท่านั้น แต่ถ้าการตัดมิให้รับมรดกได้ทำเป็นหนังสือมอบ ไว้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ การถอนจะทำตามแบบใดแบบหนึ่งดั่งบัญญัติ ไว้ใน มาตรา 1608 (1) หรือ (2) ก็ได้

คุณพ่อลำเอียง เดี๊ยนยอมไม่ได้ เลยต้องมาหาประมวลกฎหมายอ่านสักหน่อย เผื่อเดี๊ยนเข้าใจกฎหมายเกี่ยวกับมรดก เข้าใจการตัดมิให้รับมรดก คุณพ่อจะเห็นความสำคัญ และเฉดหัวลูกเลี้ยงไป เดี๊ยนจะกลับมาเป็นลูกรักอีกที ^^

กฎหมายเกี่ยวกับมรดก - การเป็นทายาท

มาแล้วค่ะ พจมาน มาตามบ้านทรายทองของตัวเองคืนแล้วค่ะ ทำไมพจมานทำได้ ก็เพราะพจมานเข้าใจกฎหมายเกี่ยวกับมรดกนี่เอง เธอมั่นใจว่าเธอคือทายาทบ้านทรายทอง ไม่ใช่ทายาทอสูรที่ไหน ดังนั้นงานนี้พจมานเลยเป็นนางเอกของละครได้สบายๆ มาดูกันว่าประมวลกฎหมายที่ว่านี้คืออะไร

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ6 มรดก ลักษณะ1 บทเบ็ดเสร็จทั่วไป 
หมวด2 การเป็นทายาท 

  • มาตรา 1604 บุคคลธรรมดาจะเป็นทายาทได้ก็ต่อเมื่อมีสภาพบุคคล หรือสามารถมีสิทธิได้ตาม มาตรา 15 แห่งประมวลกฎหมายนี้ในเวลาที่ เจ้ามรดกถึงแก่ความตาย

เพื่อประโยชน์แห่ง มาตรานี้ ให้ถือว่าเด็กที่เกิดมารอดอยู่ภายใน สามร้อยสิบวันนับแต่เวลาที่เจ้ามรดกถึงแก่ความตายนั้น เป็นทารก ในครรภ์มารดาอยู่ในเวลาที่เจ้ามรดกถึงแก่ความตาย

  • มาตรา 1605 ทายาทคนใดยักย้าย หรือปิดบังทรัพย์มรดกเท่า ส่วนที่ตนจะได้หรือมากกว่านั้นโดยฉ้อฉลหรือรู้อยู่ว่าตนทำให้เสื่อม ประโยชน์ของทายาทคนอื่น ทายาทคนนั้นต้องถูกกำจัดมิให้ได้มรดกเลยแต่ถ้าได้ยักย้ายหรือปิดบังทรัพย์มรดกน้อยกว่าส่วนที่ตน จะได้ ทายาทคนนั้นต้องถูกกำจัดมิให้ได้มรดกเฉพาะส่วนที่ได้ยักย้าย หรือปิดบังไว้นั้น

มาตรานี้ มิให้ใช้บังคับแก่ผู้รับพินัยกรรม ซึ่งผู้ตายได้ทำพินัยกรรม ยกทรัพย์สินให้เฉพาะสิ่งเฉพาะอย่าง ในอันที่จะได้รับทรัพย์สินนั้น 

  • มาตรา 1606 บุคคลดั่งต่อไปนี้ต้องถูกกำจัดมิให้รับมรดกฐานเป็น ผู้ไม่สมควร คือ
    • (1) ผู้ที่ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่าได้เจตนากระทำ หรือพยายาม กระทำให้เจ้ามรดกหรือผู้มีสิทธิได้รับมรดกก่อนตนถึงแก่ความตายโดย มิชอบด้วยกฎหมาย
    • (2) ผู้ที่ได้ฟ้องเจ้ามรดกหาว่าทำความผิดโทษประหารชีวิตและตนเอง กลับต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ามีความผิดฐานฟ้องเท็จหรือทำพยานเท็จ
    • (3) ผู้ที่รู้แล้วว่า เจ้ามรดกถูกฆ่าโดยเจตนา แต่มิได้นำข้อความนั้น ขึ้นร้องเรียนเพื่อเป็นทางที่จะเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ แต่ข้อนี้มิให้ ใช้บังคับถ้าบุคคลนั้นมีอายุยังไม่ครบสิบหกปีบริบูรณ์ หรือเป็นคนวิกลจริ ไม่สามารถรู้ผิดชอบหรือถ้าผู้ที่ฆ่านั้นเป็นสามีภริยาหรือผู้บุพการีหรือผู้ สืบสันดานของตนโดยตรง
    • (4) ผู้ที่ฉ้อฉลหรือข่มขู่ให้เจ้ามรดกทำ หรือเพิกถอน หรือเปลี่ยนแปลง พินัยกรรมแต่บางส่วนหรือทั้งหมดซึ่งเกี่ยวกับทรัพย์มรดกหรือไม่ให้กระทำ การดั่งกล่าวนั้น
    • (5) ผู้ที่ปลอม ทำลาย หรือปิดบังพินัยกรรมแต่บางส่วนหรือทั้งหมด

เจ้ามรดกอาจถอนข้อกำจัดฐานเป็นผู้ไม่สมควรเสียก็ได้ โดยให้อภัย ไว้เป็นลายลักษณ์อักษร 

  • มาตรา 1607 การถูกกำจัดมิให้รับมรดกนั้นเป็นการเฉพาะตัวผู้สืบ สันดานของทายาทที่ถูกกำจัดสืบมรดกต่อไปเหมือนหนึ่งว่าทายาทนั้นตาย แล้ว แต่ในส่วนทรัพย์สินซึ่งผู้สืบสันดานได้รับมรดกมาเช่นนี้ทายาทที่ว่า นั้นไม่มีสิทธิที่จะจัดการและใช้ดั่งที่ระบุไว้ในบรรพ 5 ลักษณะ 2 หมวด 3 แห่งประมวลกฎหมายนี้ ในกรณีเช่นนั้นให้ใช้ มาตรา 1548 บังคับ โดยอนุโลม

กฎหมายเกี่ยวกับมรดก - การตกทอดแห่งทรัพย์มรดก

ในละครไทย มีเรื่องแย่งชิงมรดก ทำพินัยกรรม ตบตีกัน ห้ำหั่นกัน ดูแล้วสนุกสนานแต่เรื่องเหล่านั้นให้ความบันเทิงที่มีเรื่องของกฎหมายเกี่ยวข้อง ดังนั้นวันนี้จึงเอาประมวลกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับมรดกมาฝากกัน ซึ่งเรื่องที่เกี่ยวกับมรดกที่ว่า อยู่ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ6 มรดก ลักษณะ1 บทเบ็ดเสร็จทั่วไป หมวด1 การตกทอดแห่งทรัพย์มรดก 

หมวด 1 การตกทอดแห่งทรัพย์มรดก

  • มาตรา 1599 เมื่อบุคคลใดตาย มรดกของบุคคลนั้นตกทอดแก่ทายาท

ทายาทอาจเสียไปซึ่งสิทธิในมรดกได้แต่โดยบทบัญญัติแห่งประมวล กฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่น

  • มาตรา 1600 ภายใต้บังคับของบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ กองมรดกของผู้ตายได้แก่ทรัพย์สินทุกชนิดของผู้ตาย ตลอดทั้งสิทธิ หน้าที่และความรับผิดต่าง ๆ เว้นแต่ตามกฎหมายหรือว่าโดยสภาพแล้ว เป็นการเฉพาะตัวของผู้ตายโดยแท้ 
  • มาตรา 1601 ทายาทไม่จำต้องรับผิดเกินกว่าทรัพย์มรดกที่ตกทอด ได้แก่ตน 
  • มาตรา 1602 เมื่อบุคคลใดต้องถือว่าถึงแก่ความตายตามความใน มาตรา 62 แห่งประมวลกฎหมายนี้ มรดกของบุคคลนั้นตกทอดแก่ทายาท

ถ้าพิสูจน์ได้ว่าบุคคลนั้นยังคงมีชีวิตอยู่ หรือตายในเวลาอื่นผิดไป จากเวลาดั่งระบุไว้ในคำสั่งที่สั่งให้เป็นคนสาบสูญ ให้ใช้บทบัญญัติ มาตรา 63 แห่งประมวลกฎหมายนี้บังคับแก่ทายาทของบุคคลนั้น 
หมายเหตุอ่านมาตรา 1602 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ. ให้ใช้บทบัญญัติบรรพ 1 แห่งปพพพ.ที่ได้ตรวจชำระใหม่ พ.ศ.2535

  • มาตรา 1603 กองมรดกย่อมตกทอดแก่ทายาทโดยสิทธิตามกฎหมายหรือโดยพินัยกรรม

ทายาทที่มีสิทธิตามกฎหมาย เรียกว่า "ทายาทโดยธรรม"
ทายาทที่มีสิทธิตามพินัยกรรม เรียกว่า "ผู้รับพินัยกรรม"

หัวข้อถัดไปจะเอารายละเอียดอื่นๆ ของกฎหมายเกี่ยวกับมรดก เรื่องทายาท มาฝาก เอ้... ไม่รู้ว่าผู้อ่านเป็นทายาทร้อยล้าน พันล้านอยู่รึเปล่าเอ่ย หรือไม่ได้เป็นทายาทมรดกอะไร ก็ศึกษาไว้ เผื่อวันไหนส้มหล่น มีญาติที่พลัดพลาก เขียนพินัยกรรมมอบมรดกให้เราเหมือนในละครก็ได้

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ5 ครอบครัว ลักษณะ1 การสมรส

กฎหมายเกี่ยวกับการสมรส - เงื่อนไขแห่งการสมรส
วันนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการสมรสมาฝาก หนุ่มๆสาวๆทั้งหลายที่วาดหวังว่าจะเริ่มต้นครอบครัว สิ่งที่พวกเขาต้องกระทำเพื่อสร้างพันธะระหว่างกันคือการแต่งงาน หรือการสมรสนั่นเอง ดังนั้นกฎหมายด้านการแต่งงานทุกคนควรจะมีความรู้เรื่องนี้ เป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆเลยทีเดียว มาดูกันว่าประมวลกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสมรสมีอะไรบ้าง - อ่านต่อ


กฎหมายเกี่ยวกับการสมรส - การหมั้น
มาต่อกันในเนื้อหาที่ค้างไว้ว่าจะเอามาฝากค่ะ หลังจากที่พูดถึงเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวกับการแต่งงานแล้ว มาคราวนี้จะคุยถึงเรื่องการหมั่นค่ะ ซึ่งก็สำคัญไม่ต่างกันเลย ที่ท่านพึงต้องรู้ก่อนการหมั้นและการแต่งงาน - อ่านต่อ




กฎหมายเกี่ยวกับการสมรส - ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยา
หลังจากแต่งงานไปแล้ว สามี ภรรยา ก็ยังต้องมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการอยู่กินด้วยกัน การอุปการะเลี้ยงดูกันและกัน รวมไปถึงเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดเป็นผู้ไร้ความสามารถ หรือวิกลจริต จะทำอย่างไร วันนี้ประมวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยามาฝาก - อ่านต่อ


กฎหมายเกี่ยวกับการสมรส - ทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา

กลับมาดูเรื่องการแต่งงานอีกครั้งค่ะ สำหรับวันนี้จะคุยกันถึงประมวลกฎหมายที่เกี่ยวกับทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา หลังคู่สมรสแต่งงานแล้ว จะมีเรื่องทรัพย์สินระหว่างสมรส สินสมรส ซึ่งคู่สมรสต้องเข้าใจกฎหมายด้านนี้ เพื่อจะได้เข้าใจเงื่อนไขต่างๆ  - อ่านต่อ



กฎหมายเกี่ยวกับการสมรส - ความเป็นโมฆะของการสมรส
สำหรับหัวข้อนี้ฟังชื่อแล้วดูน่ากลัวพิกล แต่หากว่าทำตามที่กฎหมายบัญญัติอะไรก็ไม่น่ากลัว มาดูกันว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ5 ครอบครัว ลักษณะ1 การสมรส หมวด5 ความเป็นโมฆะของการสมรส จะเป็นอย่างไร อย่าเพิ่งตกใจกลัวและปิดไปก่อนนะคะ คู่รักทุกคนต้องอ่านก่อนแต่งนะคะ - อ่านต่อ




กฎหมายเกี่ยวกับการสมรส - การสิ้นสุดแห่งการสมรสhttp://commonlaw1.blogspot.com/2014/02/blog-post_7789.html
หลายคู่สมรส ตอนแต่งใหม่ๆน้ำต้มผักก็ว่าหวาน แต่พอผ่านไปสักพัก หลายคู่ก็ไม่ได้จับมือกันไปจนถึงบั้นปลายชีวิต อาจจะต้องมีการหย่าร้างเกิดขึ้น วันนี้เลยเอาประมวลกฎหมายที่ประกอบด้วยเรื่องการสิ้นสุดแห่งการสมรสมาฝากค่ะ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ5 ครอบครัว ลักษณะ1 การสมรส หมวด6 การสิ้นสุดแห่งการสมรส ... อ่านต่อ



กฎหมายเกี่ยวกับการสมรส - การสิ้นสุดแห่งการสมรส

หลายคู่สมรส ตอนแต่งใหม่ๆน้ำต้มผักก็ว่าหวาน แต่พอผ่านไปสักพัก หลายคู่ก็ไม่ได้จับมือกันไปจนถึงบั้นปลายชีวิต อาจจะต้องมีการหย่าร้างเกิดขึ้น วันนี้เลยเอาประมวลกฎหมายที่ประกอบด้วยเรื่องการสิ้นสุดแห่งการสมรสมาฝากค่ะ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ5 ครอบครัว ลักษณะ1 การสมรส หมวด6 การสิ้นสุดแห่งการสมรส 



หมวด 6 การสิ้นสุดแห่งการสมรส
  • มาตรา 1501 การสมรสย่อมสิ้นสุดลงด้วยความตาย การหย่า หรือศาลพิพากษาให้เพิกถอน
  • มาตรา 1502 การสมรสที่เป็นโมฆียะสิ้นสุดลงเมื่อศาลพิพากษา ให้เพิกถอน 
  • มาตรา 1503 เหตุที่จะขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนการสมรสเพราะเหตุ ว่าเป็นโมฆียะ มีเฉพาะในกรณีที่คู่สมรสทำการฝ่าฝืน มาตรา 1448 มาตรา 1505 มาตรา 1506 มาตรา 1507 และ มาตรา 1509 
  • มาตรา 1504 การสมรสที่เป็นโมฆียะเพราะฝ่าฝืน มาตรา 1448 ผู้มีส่วนได้เสียขอให้เพิกถอนการสมรสได้ แต่บิดามารดาหรือผู้ปกครองที่ให้ความ ยินยอมแล้วจะขอให้เพิกถอนการสมรสไม่ได้
ถ้าศาลมิได้สั่งให้เพิกถอนการสมรสจนชายหญิงมีอายุครบตาม มาตรา 1448 หรือเมื่อหญิงมีครรภ์ก่อนอายุครบตาม มาตรา 1448 ให้ถือว่าการสมรส สมบูรณ์มาตั้งแต่เวลาสมรส 
  • มาตรา 1505 การสมรสที่ได้กระทำไปโดยคู่สมรสฝ่ายหนึ่งสำคัญผิดตัวคู่ สมรส การสมรสนั้นเป็นโมฆียะ
สิทธิขอเพิกถอนการสมรสเพราะสำคัญผิดตัวคู่สมรสเป็นอันระงับ เมื่อ เวลาได้ผ่านพ้นไปแล้วเก้าสิบวันนับแต่วันสมรส 
  • มาตรา 1506 ถ้าคู่สมรสได้ทำการสมรสโดยถูกกลฉ้อฉลอันถึงขนาดซึ่ง ถ้ามิได้มีกลฉ้อฉลนั้นจะไม่ทำการสมรส การสมรสนั้นเป็นโมฆียะ
ความในวรรคหนึ่ง ไม่ใช้บังคับในกรณีที่กลฉ้อฉลนั้นเกิดขึ้นโดยบุคคลที่ สามโดยคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งมิได้รู้เห็นด้วย
สิทธิขอเพิกถอนการสมรสเพราะถูกกลฉ้อฉลเป็นอันระงับ เมื่อเวลาได้ ผ่านพ้นไปแล้วเก้าสิบวันนับแต่วันที่รู้หรือควรได้รู้ถึงกลฉ้อฉลหรือเมื่อเวลาได้ ผ่านพ้นไปแล้วหนึ่งปีนับแต่วันสมรส 
  • มาตรา 1507 ถ้าคู่สมรสได้ทำการสมรสโดยถูกข่มขู่อันถึงขนาดซึ่งถ้า มิได้มีการข่มขู่นั้นจะไม่ทำการสมรส การสมรสนั้นเป็นโมฆียะ
 สิทธิขอเพิกถอนการสมรสเพราะถูกข่มขู่เป็นอันระงับ เมื่อเวลาได้ผ่าน พ้นไปแล้วหนึ่งปีนับแต่วันที่พ้นจากการข่มขู่ 
  • มาตรา 1508 การสมรสที่เป็นโมฆียะเพราะคู่สมรสสำคัญผิดตัวหรือถูก กลฉ้อฉล หรือถูกข่มขู่ เฉพาะแต่คู่สมรสที่สำคัญผิดตัวหรือถูกกลฉ้อฉลหรือ ถูกข่มขู่เท่านั้นขอเพิกถอนการสมรสได้
ในกรณีที่ผู้มีสิทธิขอเพิกถอนการสมรสเป็นบุคคลที่ถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ ความสามารถ ให้บุคคลซึ่งอาจร้องขอต่อศาลให้สั่งให้บุคคลวิกลจริตเป็นคนไร้ ความสามารถตาม มาตรา 29 ขอเพิกถอนการสมรสได้ด้วย แต่ถ้าผู้มีสิทธิขอ เพิกถอนการสมรสเป็นคนวิกลจริตที่ศาลยังไม่ได้สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ บุคคลดังกล่าวจะร้องขอเพิกถอนการสมรสก็ได้ แต่ต้องขอให้ศาลสั่งให้คนวิกล จริตเป็นคนไร้ความสามารถพร้อมกันด้วย ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้ยกคำขอให้ ศาลสั่งเป็นคนไร้ความสามารถก็ให้ศาลมีคำสั่งยกคำขอการเพิกถอนการสมรส ของบุคคลดังกล่าวนั้นเสียด้วย
 คำสั่งศาลให้ยกคำขอเพิกถอนการสมรสของบุคคลตามวรรคสอง ไม่กระ ทบกระเทือนสิทธิการขอเพิกถอนการสมรสของคู่สมรส แต่คู่สมรสจะต้องใช้ สิทธินั้นภายในกำหนดระยะเวลาที่คู่สมรสมีอยู่ ถ้าระยะเวลาดังกล่าวเหลืออยู่ ไม่ถึงหกเดือนนับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งให้ยกคำขอเพิกถอนการสมรสของบุคคลดัง กล่าว หรือไม่มีเหลืออยู่เลยก็ให้ขยายระยะเวลานั้นออกไปได้ให้ครบหกเดือน หรืออีกหกเดือน นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งให้ยกคำขอเพิกถอนการสมรสของ บุคคลดังกล่าวแล้วแต่กรณี 
  • มาตรา 1509 การสมรสที่มิได้รับความยินยอมของบุคคลดังกล่าวใน มาตรา 1454 การสมรสนั้นเป็นโมฆียะ 
  • มาตราา 1510 การสมรสที่เป็นโมฆียะเพราะมิได้รับความยินยอมของ บุคคลดังกล่าวใน มาตรา 1454 เฉพาะบุคคลที่อาจให้ความยินยอมตาม มาตรา 1454 เท่านั้น ขอให้เพิกถอนการสมรสได้
 สิทธิขอเพิกถอนการสมรสตาม มาตรานี้ เป็นอันระงับ เมื่อคู่สมรสนั้นมีอายุ ครบยี่สิบปีบริบูรณ์หรือเมื่อหญิงมีครรภ์
 การฟ้องขอเพิกถอนการสมรสตาม มาตรานี้ ให้มีอายุความหนึ่งปี นับแต่วัน ทราบการสมรส 
  • มาตรา 1511 การสมรสที่ได้มีคำพิพากษาให้เพิกถอนนั้น ให้ถือว่าสิ้นสุด ลงในวันที่คำพิพากษาถึงที่สุด แต่จะอ้างเป็นเหตุเสื่อมสิทธิของบุคคลภายนอก ผู้ทำการโดยสุจริตไม่ได้ เว้นแต่จะได้จดทะเบียนการเพิกถอนการสมรสนั้นแล้ว 
  • มาตรา 1512 ให้นำบทบัญญัติว่าด้วยผลของการหย่าโดยคำพิพากษา มาใช้บังคับแก่ผลของการเพิกถอนการสมรสโดยอนุโลม 
  • มาตรา 1513 ถ้าปรากฏว่าคู่สมรสที่ถูกฟ้องเพิกถอนการสมรส ได้รู้เห็นเป็นใจในเหตุแห่งโมฆียะกรรม คู่สมรสนั้นจะต้องรับผิดใช้ ค่าทดแทนความเสียหายซึ่งคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งได้รับต่อกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สิน เนื่องจากการสมรสนั้นและให้นำ มาตรา 1525 มาใช้ บังคับโดยอนุโลม
 ถ้าหากการเพิกถอนการสมรสตามวรรคหนึ่งทำให้อีกฝ่ายหนึ่ง ยากจนลงและไม่มีรายได้พอจากทรัพย์สินหรือจากการงานตามที่ เคยทำอยู่ระหว่างสมรสคู่สมรสที่ถูกฟ้องนั้นจะต้องรับผิดในค่าเลี้ยง ชีพดังที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 1526 ด้วย 
  • มาตรา 1514 การหย่านั้นจะทำได้แต่โดยความยินยอมของทั้งสองฝ่าย หรือโดยคำพิพากษาของศาล
การหย่าโดยความยินยอมต้องทำเป็นหนังสือและมีพยานลงลายมือชื่ออย่างน้อยสองคน 
  • มาตรา 1515 เมื่อได้จดทะเบียนสมรสตามประมวลกฎหมายนี้การหย่า โดยความยินยอมจะสมบูรณ์ต่อเมื่อสามีและภริยาได้จดทะเบียนการหย่านั้นแล้ว 
  • มาตรา 1516 เหตุฟ้องหย่ามีดังต่อไปนี้
    • (1) สามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามี เป็นชู้หรือมีชู้ หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
    • (2) สามีหรือภริยาประพฤติชั่ว ไม่ว่าความประพฤติชั่วนั้นจะเป็นความ ผิดอาญาหรือไม่ ถ้าเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่ง
      • (ก) ได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรง
      • (ข) ได้รับความดูถูกเกลียดชังเพราะเหตุที่คงเป็นสามีหรือภริยาของฝ่าย ที่ประพฤติชั่วอยู่ต่อไป หรือ
      • (ค) ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินควร ในเมื่อเอาสภาพฐานะ และความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
    • (3) สามีหรือภริยาทำร้าย หรือทรมานร่างกายหรือจิตใจ หรือหมิ่น ประมาทหรือเหยียดหยามอีกฝ่ายหนึ่งหรือบุพการีของอีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้ ถ้าเป็นการร้ายแรง อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
    • (4) สามีหรือภริยาจงใจละทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งไปเกินหนึ่งปี อีกฝ่ายหนึ่ง นั้นฟ้องหย่าได้ 
      • (4/1) สามีหรือภริยาต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และได้ถูกจำคุก เกินหนึ่งปีในความผิดที่อีกฝ่ายหนึ่งมิได้มีส่วนก่อให้เกิดการกระทำความผิด หรือยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้นด้วย และการเป็นสามี ภริยากันต่อไปจะเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกิน ควร อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
      • (4/2) สามีและภริยาสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกัน ฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกินสามปี หรือแยกกันอยู่ตามคำสั่งของ ศาลเป็นเวลาเกินสามปี ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
    • (5) สามีหรือภริยาถูกศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญ หรือไปจากภูมิลำเนา หรือถิ่นที่อยู่เป็นเวลาเกินสามปี โดยไม่มีใครทราบแน่ว่าเป็นตายร้ายดีอย่าง ไร อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
    • (6) สามีหรือภริยาไม่ให้ความช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งตาม สมควร หรือทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามีหรือภริยากันอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ถ้าการกระทำนั้นถึงขนาดที่อีกฝ่ายหนึ่งเดือดร้อนเกินควรในเมื่อเอา สภาพ ฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ อีกฝ่าย หนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
    • (7) สามีหรือภริยาวิกลจริตตลอดมาเกินสามปี และความวิกลจริตนั้นมี ลักษณะยากจะหายได้ กับทั้งความวิกลจริตถึงขนาดที่จะทนอยู่ร่วมกัน ฉันสามีภริยาต่อไปไม่ได้ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
    • (8) สามีหรือภริยาผิดทัณฑ์บนที่ทำให้ไว้เป็นหนังสือในเรื่องความ ประพฤติอีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
    • (9) สามีหรือภริยาเป็นโรคติดต่ออย่างร้ายแรงอันอาจเป็นภัยแก่อีกฝ่าย หนึ่งและโรคมีลักษณะเรื้อรัง ไม่มีทางที่จะหายได้ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
    • (10) สามีหรือภริยามีสภาพแห่งกายทำให้สามีหรือภริยานั้น ไม่อาจร่วม ประเวณีได้ตลอดกาล อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
หมายเหตุอ่านมาตรา 1516 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ. แก้ไขเพิ่มเติมปพพ.(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2533 
อ่านมาตรา 1516 (1) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ. แก้ไขเพิ่มเติมปพพ.(ฉบับที่ 16) พ.ศ.2550 
  • มาตรา 1517 เหตุฟ้องหย่าตาม มาตรา 1516 (1) และ (2) ถ้าสามี หรือภริยา แล้วแต่กรณี ได้ยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจในการกระทำที่เป็นเหตุ หย่านั้น ฝ่ายที่ยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจนั้นจะยกเป็นเหตุฟ้องหย่านั้นไม่ได้
เหตุฟ้องหย่าตาม มาตรา 1516 (10) ถ้าเกิดเพราะการกระทำของอีก ฝ่ายหนึ่ง อีกฝ่ายหนึ่งนั้นจะยกเป็นเหตุฟ้องหย่าไม่ได้
 ในกรณีฟ้องหย่าโดยอาศัยเหตุแห่งการผิดทัณฑ์บนตาม มาตรา 1516 (8) นั้น ถ้าศาลเห็นว่าความประพฤติของสามีหรือภริยาอันเป็นเหตุให้ทำทัณฑ์บน เป็นเหตุเล็กน้อยหรือไม่สำคัญเกี่ยวแก่การอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาโดยปกติสุข ศาลจะไม่พิพากษาให้หย่าก็ได้ 
  • มาตรา 1518 สิทธิฟ้องหย่าย่อมหมดไปในเมื่อฝ่ายที่มีสิทธิฟ้องหย่าได้ กระทำการอันแสดงให้เห็นว่าได้ให้อภัยในการกระทำของอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเป็น เหตุให้เกิดสิทธิฟ้องหย่านั้นแล้ว 
  • มาตรา 1519 ในกรณีที่คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นคนวิกลจริตและมีเหตุ หย่าเกิดขึ้น ไม่ว่าเหตุนั้นจะได้เกิดขึ้นก่อนหรือภายหลังการเป็นคนวิกลจริต ให้บุคคลซึ่งอาจร้องขอต่อศาลให้สั่งให้บุคคลวิกลจริตเป็นคนไร้ความสามาร ตาม มาตรา 28 มีอำนาจฟ้องคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งขอให้ศาลพิพากษาให้หย่า ขาดจากกันและแบ่งทรัพย์สินได้ ในกรณีเช่นว่านี้ ถ้ายังมิได้มีคำสั่งของศาล แสดงว่าคู่สมรสซึ่งวิกลจริตเป็นคนไร้ความสามารถ ก็ให้บุคคลดังกล่าวร้องขอ ต่อศาลในคดีเดียวกันนั้นให้ศาลมีคำสั่งว่าคู่สมรสซึ่งวิกลจริตนั้นเป็นคนไร้ ความสามารถ
 เมื่อบุคคลดังกล่าวเห็นสมควร จะร้องขอต่อศาลให้มีคำสั่งตาม มาตรา 1526 หรือ มาตรา 1530 ด้วยก็ได้
ในกรณีที่คู่สมรสซึ่งถูกอ้างว่าเป็นคนวิกลจริต ยังไม่ได้ถูกสั่งให้เป็นคนไร้ ความสามารถ หากศาลเห็นว่าคู่สมรสนั้นยังไม่เป็นคนที่ควรสั่งให้เป็นคนไร้ ความสามารถก็ให้ยกฟ้องคดีนั้นเสีย ถ้าเห็นว่าเป็นบุคคลที่ควรสั่งให้เป็นคนไร้ ความสามารถ แต่ยังไม่สมควรจะให้มีการหย่า ก็ให้ศาลสั่งให้คู่สมรสนั้นเป็น คนไร้ความสามารถโดยจะไม่สั่งเรื่องผู้อนุบาลหรือจะตั้งผู้อื่นเป็นผู้อนุบาลตาม มาตรา 1463 ก็ได้ คงพิพากษายกแต่เฉพาะข้อหย่า ในกรณีเช่นนี้ศาลจะสั่ง กำหนดค่าเลี้ยงชีพด้วยก็ได้ ในกรณีที่ศาลเห็นว่าคู่สมรสนั้นวิกลจริตอันควร สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ และทั้งมีเหตุควรให้หย่าด้วย ก็ให้ศาลสั่งในคำ พิพากษาให้คู่สมรสนั้นเป็นคนไร้ความสามารถ ตั้งผู้อนุบาลและให้หย่า
 ในกรณีนี้ ถ้าศาลเห็นว่าเหตุหย่าที่ยกขึ้นอ้างในการฟ้องร้องนั้นไม่เหมาะ สมแก่สภาพของคู่สมรส ซึ่งเป็นคนไร้ความสามารถที่จะหย่าจากคู่สมรสอีกฝ่าย หนึ่งก็ดี ตามพฤติการณ์ไม่สมควรที่จะให้มีการหย่าขาดจากกันก็ดี ศาลจะ พิพากษาไม่ให้หย่าก็ได้ 
  • มาตรา 1520 ในกรณีหย่าโดยความยินยอม ให้สามีภริยาทำความตกลง เป็นหนังสือว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรคนใด ถ้ามิได้ตกลงกัน หรือตกลงกันไม่ได้ ให้ศาลเป็นผู้ชี้ขาด
ในกรณีหย่าโดยคำพิพากษาของศาล ให้ศาลซึ่งพิจารณาคดีฟ้องหย่านั้นชี้ ขาดด้วยว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรคนใด ในการพิจารณาชี้ขาด ถ้าศาลเห็นว่ามีเหตุที่จะถอนอำนาจปกครองของคู่สมรสนั้นได้ตาม มาตรา 1582 ศาลจะถอนอำนาจปกครองของคู่สมรสและสั่งให้บุคคลภายนอกเป็นผู้ ปกครองก็ได้ ทั้งนี้ ให้ศาลคำนึงถึงความผาสุกและประโยชน์ของบุตรนั้นเป็น สำคัญ 
หมายเหตุอ่านมาตรา 1520 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ. แก้ไขเพิ่มเติมปพพ.(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2533 
  • มาตรา 1521 ถ้าปรากฏว่าผู้ใช้อำนาจปกครองหรือผู้ปกครองตาม มาตรา 1520 ประพฤติตนไม่สมควรหรือภายหลังพฤติการณ์ได้เปลี่ยนแปลง ไป ศาลมีอำนาจสั่งเปลี่ยนตัวผู้ใช้อำนาจปกครองหรือผู้ปกครองโดยคำนึงถึง ความผาสุกและประโยชน์ของบุตรเป็นสำคัญ
หมายเหตุอ่านมาตรา 1521 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ. แก้ไขเพิ่มเติมปพพ.(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2533
  • มาตรา 1522 ถ้าสามีภริยาหย่าโดยความยินยอม ให้ทำความตกลงกัน ไว้ในสัญญาหย่าว่าสามีภริยาทั้งสองฝ่ายหรือสามีหรือภริยาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะ ออกเงินค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรเป็นจำนวนเงินเท่าใด 
ถ้าหย่าโดยคำพิพากษาของศาลหรือในกรณีที่สัญญาหย่ามิได้กำหนดเรื่อง ค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรไว้ ให้ศาลเป็นผู้กำหนด 
  • มาตรา 1523 เมื่อศาลพิพากษาให้หย่ากันเพราะเหตุตาม มาตรา 1516 (1) ภริยาหรือสามี มีสิทธิได้รับค่าทดแทนจากสามีหรือภริยาและจากผู้ซึ่งได้รับการอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่อง หรือผู้ซึ่งเป็นเหตุแห่งการหย่านั้น
สามีจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาวก็ได้และ ภริยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผย เพื่อแสดงว่าตน มีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวก็ได้
ถ้าสามีหรือภริยายินยอม หรือรู้เห็นเป็นใจให้อีกฝ่ายหนึ่งกระทำการตาม มาตรา 1516 (1) หรือให้ผู้อื่นกระทำการตามวรรคสอง สามีหรือภริยานั้นจะ เรียกค่าทดแทนไม่ได้ 
หมายเหตุอ่านมาตรา 1523 วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ. แก้ไขเพิ่มเติมปพพ.(ฉบับที่ 16) พ.ศ.2550 
  • มาตรา 1524 ถ้าเหตุแห่งการหย่าตาม มาตรา 1516 (3) (4) หรือ (6) เกิดขึ้นเพราะฝ่ายผู้ต้องรับผิดชอบก่อให้เกิดขึ้นโดยมุ่งประสงค์ให้อีก ฝ่ายหนึ่งไม่อาจทนได้ จึงต้องฟ้องหย่า อีกฝ่ายหนึ่งมีสิทธิได้รับค่าทดแทน จากฝ่ายที่ต้องรับผิด 
  • มาตรา 1525 ค่าทดแทนตาม มาตรา 1523 และ มาตรา 1524 นั้น ให้ศาลวินิจฉัยตามควรแก่พฤติการณ์ โดยศาลจะสั่งให้ชำระครั้งเดียวหรือแบ่ง ชำระเป็นงวด ๆ มีกำหนดเวลาตามที่ศาลจะเห็นสมควรก็ได้ 
ในกรณีที่ผู้จะต้องชำระค่าทดแทนเป็นคู่สมรสของอีกฝ่ายหนึ่ง ให้ศาล คำนึงถึงจำนวนทรัพย์สินที่คู่สมรสนั้นได้รับไปจากการแบ่งสินสมรส เพราะ การหย่านั้นด้วย 
  • มาตรา 1526 ในคดีหย่า ถ้าเหตุแห่งการหย่าเป็นความผิดของคู่สมรส ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแต่ฝ่ายเดียว และการหย่านั้นจะทำให้อีกฝ่ายหนึ่งยากจนล เพราะไม่มีรายได้พอจากทรัพย์สิน หรือจากการงานตามที่เคยทำอยู่ระหว่าง สมรส อีกฝ่ายหนึ่งนั้นจะขอให้ฝ่ายที่ต้องรับผิดจ่ายค่าเลี้ยงชีพให้ได้ ค่า เลี้ยงชีพนี้ศาลอาจให้เพียงใดหรือไม่ให้ก็ได้ โดยคำนึงถึงความสามารถของผู้ ให้และฐานะของผู้รับและให้นำบทบัญญัติ มาตรา 1598/39 มาตรา 1598/40 และ มาตรา 1598/41 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
สิทธิเรียกร้องค่าเลี้ยงชีพเป็นอันสิ้นสุด ถ้ามิได้ฟ้องหรือฟ้องแย้งในคดี หย่านั้น 
  • มาตรา 1527 ถ้าหย่าขาดจากกันเพราะเหตุวิกลจริตตาม มาตรา 1516 (7) หรือเพราะเหตุเป็นโรคติดต่ออย่างร้ายแรงตาม มาตรา 1516 (9) คู่ สมรสอีกฝ่ายหนึ่งต้องออกค่าเลี้ยงชีพให้แก่ฝ่ายที่วิกลจริตหรือฝ่ายที่เป็น โรคติดต่อนั้นโดยคำนวณค่าเลี้ยงชีพอนุโลมตาม มาตรา 1526 
  • มาตรา 1528 ถ้าฝ่ายที่รับค่าเลี้ยงชีพสมรสใหม่ สิทธิรับค่าเลี้ยงชีพย่อม หมดไป 
  • มาตรา 1529 สิทธิฟ้องร้องโดยอาศัยเหตุใน มาตรา 1516 (1) (2) (3) หรือ (6) หรือ มาตรา 1523 ย่อมระงับไปเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปีนับแต่วัน ผู้กล่าวอ้างรู้หรือควรรู้ความจริงซึ่งตนอาจยกขึ้น กล่าวอ้าง
เหตุอันจะยกขึ้นฟ้องหย่าไม่ได้แล้วนั้น อาจนำสืบสนับสนุนคดีฟ้องหย่าซึ่ง อาศัยเหตุ อย่างอื่น 
  • มาตรา 1530 ขณะคดีฟ้องหย่าอยู่ในระหว่างพิจารณา ถ้าฝ่ายใดร้อง ขอ ศาลอาจสั่งชั่วคราวให้จัดการตามที่เห็นสมควร เช่นในเรื่องสินสมรส ที่ พักอาศัย การอุปการะเลี้ยงดูสามีภริยาและการพิทักษ์อุปการะเลี้ยงดูบุตร 
  • มาตรา 1531 การสมรสที่จดทะเบียนตามกฎหมายนั้น การหย่าโดย ความยินยอมของคู่สมรสทั้งสองฝ่ายมีผลนับแต่เวลาจดทะเบียนการหย่าเป็นต้น ไป
 การหย่าโดยคำพิพากษามีผลแต่เวลาที่คำพิพากษาถึงที่สุด แต่จะอ้างเป็น เหตุเสื่อมสิทธิของบุคคลภายนอกผู้ทำการโดยสุจริตไม่ได้ เว้นแต่จะได้จด ทะเบียนการหย่านั้นแล้ว 
  • มาตรา 1532 เมื่อหย่ากันแล้วให้จัดการแบ่งทรัพย์สินของสามีภริยา แต่ในระหว่างสามีภริย
    • (ก) ถ้าเป็นการหย่ากันโดยความยินยอมของทั้งสองฝ่าย ให้จัดการแบ่ง ทรัพย์สินของสามีภริยาตามที่มีอยู่ในเวลาจดทะเบียนการหย่า
    • (ข) ถ้าเป็นการหย่าโดยคำพิพากษาของศาล คำพิพากษาส่วนที่บังคับ ทรัพย์สินระหว่างสามีภริยานั้น มีผลย้อนหลังไปถึงวันฟ้องหย่า 
  • มาตรา 1533 เมื่อหย่ากันให้แบ่งสินสมรสให้ชายและหญิงได้ส่วนเท่ากัน 
  • มาตรา 1534 สินสมรสที่คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจำหน่ายไปเพื่อประ โยชน์ตนฝ่ายเดียวก็ดี จำหน่ายไปโดยเจตนาทำให้คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งเสียหาย ก็ดี จำหน่ายไปโดยมิได้รับความยินยอมของคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งในกรณีที่ กฎหมายบังคับว่าการจำหน่ายนั้นจะต้องได้รับความยินยอมของอีกฝ่ายหนึ่ง ด้วยก็ดี จงใจทำลายให้สูญหายไปก็ดี ให้ถือเสมือนว่าทรัพย์สินนั้นยังคงมีอยู่ เพื่อจัดแบ่งสินสมรสตาม มาตรา 1533 และถ้าคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งได้รับส่วน แบ่งสินสมรสไม่ครบตามจำนวนที่ควรจะได้ ให้คู่สมรสฝ่ายที่ได้จำหน่าย หรือจงใจทำลายสินสมรสนั้นชดใช้จากสินสมรสส่วนของตนหรือสินส่วนตัว 
  • มาตรา 1535 เมื่อการสมรสสิ้นสุดลง ให้แบ่งความรับผิดในหนี้ที่จะต้องรับผิดด้วยกันตามส่วนเท่ากัน
ไม่อยากให้ท่าผู้อ่านต้องมีโอกาสใช้ืประมวลนี้นะคะ แต่ยังไงก็เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ไม่คาดฝันว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ดังนั้นเรื่องการสิ้นสุดแห่งการสมรสก็ยังเป็นเรื่องที่ทุกท่านควรต้องรู้เผื่อไว้ และหากต้องมีการหย่าร้าง หรือตาย จะต้องมีการแบ่งทรัพย์สิน จัดการมรดก รวมถึงการจัดการบุตร ในตอนถัดไปมีเรื่องราวเกี่ยวกับการจัดการมรดกมาฝากค่ะ อย่าลืมติดตามกันนะคะ


กฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

กฎหมายเกี่ยวกับการสมรส - เงื่อนไขแห่งการสมรส
วันนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการสมรสมาฝาก หนุ่มๆสาวๆทั้งหลายที่วาดหวังว่าจะเริ่มต้นครอบครัว สิ่งที่พวกเขาต้องกระทำเพื่อสร้างพันธะระหว่างกันคือการแต่งงาน หรือการสมรสนั่นเอง ดังนั้นกฎหมายด้านการแต่งงานทุกคนควรจะมีความรู้เรื่องนี้ เป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆเลยทีเดียว มาดูกันว่าประมวลกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสมรสมีอะไรบ้าง - อ่านต่อ


กฎหมายเกี่ยวกับการสมรส - การหมั้น
มาต่อกันในเนื้อหาที่ค้างไว้ว่าจะเอามาฝากค่ะ หลังจากที่พูดถึงเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวกับการแต่งงานแล้ว มาคราวนี้จะคุยถึงเรื่องการหมั่นค่ะ ซึ่งก็สำคัญไม่ต่างกันเลย ที่ท่านพึงต้องรู้ก่อนการหมั้นและการแต่งงาน - อ่านต่อ



กฎหมายเกี่ยวกับการสมรส - ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยา
หลังจากแต่งงานไปแล้ว สามี ภรรยา ก็ยังต้องมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการอยู่กินด้วยกัน การอุปการะเลี้ยงดูกันและกัน รวมไปถึงเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดเป็นผู้ไร้ความสามารถ หรือวิกลจริต จะทำอย่างไร วันนี้ประมวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยามาฝาก - อ่านต่อ


กฎหมายเกี่ยวกับการสมรส - ทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา

กลับมาดูเรื่องการแต่งงานอีกครั้งค่ะ สำหรับวันนี้จะคุยกันถึงประมวลกฎหมายที่เกี่ยวกับทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา หลังคู่สมรสแต่งงานแล้ว จะมีเรื่องทรัพย์สินระหว่างสมรส สินสมรส ซึ่งคู่สมรสต้องเข้าใจกฎหมายด้านนี้ เพื่อจะได้เข้าใจเงื่อนไขต่างๆ  - อ่านต่อ


กฎหมายเกี่ยวกับการสมรส - ความเป็นโมฆะของการสมรส
สำหรับหัวข้อนี้ฟังชื่อแล้วดูน่ากลัวพิกล แต่หากว่าทำตามที่กฎหมายบัญญัติอะไรก็ไม่น่ากลัว มาดูกันว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ5 ครอบครัว ลักษณะ1 การสมรส หมวด5 ความเป็นโมฆะของการสมรส จะเป็นอย่างไร อย่าเพิ่งตกใจกลัวและปิดไปก่อนนะคะ คู่รักทุกคนต้องอ่านก่อนแต่งนะคะ อ่านต่อ




กฎหมายเกี่ยวกับการสมรส - การสิ้นสุดแห่งการสมรสhttp://commonlaw1.blogspot.com/2014/02/blog-post_7789.html
หลายคู่สมรส ตอนแต่งใหม่ๆน้ำต้มผักก็ว่าหวาน แต่พอผ่านไปสักพัก หลายคู่ก็ไม่ได้จับมือกันไปจนถึงบั้นปลายชีวิต อาจจะต้องมีการหย่าร้างเกิดขึ้น วันนี้เลยเอาประมวลกฎหมายที่ประกอบด้วยเรื่องการสิ้นสุดแห่งการสมรสมาฝากค่ะ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ5 ครอบครัว ลักษณะ1 การสมรส หมวด6 การสิ้นสุดแห่งการสมรส ... อ่านต่อ

กฎหมายเกี่ยวกับการสมรส - ความเป็นโมฆะของการสมรส

สำหรับหัวข้อนี้ฟังชื่อแล้วดูน่ากลัวพิกล แต่หากว่าทำตามที่กฎหมายบัญญัติอะไรก็ไม่น่ากลัว มาดูกันว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ5 ครอบครัว ลักษณะ1 การสมรส หมวด5 ความเป็นโมฆะของการสมรส จะเป็นอย่างไร อย่าเพิ่งตกใจกลัวและปิดไปก่อนนะคะ คู่รักทุกคนต้องอ่านก่อนแต่งนะคะ


หมวด 5 ความเป็นโมฆะของการสมรส
หมายเหตุ  มาตรา 1495 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ. แก้ไขเติมปพพ.(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2533 
คู่สมรส บิดามารดา หรือผู้สืบสันดานของคู่สมรส อาจร้องขอให้ ศาลพิพากษาว่าการสมรสเป็นโมฆะได้ ถ้าไม่มีบุคคลดังกล่าว ผู้มี ส่วนได้เสียจะร้องขอให้อัยการเป็นผู้ร้องขอต่อศาลก็ได้
หมายเหตุอ่านมาตรา 1496 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ. แก้ไขเติมปพพ.(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2533 
  • มาตรา 1497 การสมรสที่เป็นโมฆะเพราะฝ่าฝืน มาตรา 1452 บุคคลผู้มีส่วนได้เสียคนใดคนหนึ่งจะกล่าวอ้างขึ้น หรือจะร้องขอให้ศาลพิพากษา ว่าการสมรสเป็นโมฆะก็ได้
หมายเหตุอ่านมาตรา 1497 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ. แก้ไขเติมปพพ.(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2533 
  • มาตรา 1497/1 ในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าการสมรสใด เป็นโมฆะ ให้ศาลแจ้งไปยังนายทะเบียนเพื่อบันทึกความเป็นโมฆะ ไว้ในทะเบียนสมรส
หมายเหตุ มาตรา 1497/1 เพิ่มเติมโดยพรบ. แก้ไขเติมปพพ.(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2533 
  • มาตรา 1498 การสมรสที่เป็นโมฆะ ไม่ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ทาง ทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา
ในกรณีที่การสมรสเป็นโมฆะ ทรัพย์สินที่ฝ่ายใดมีหรือได้มาไม่ว่าก่อน หรือหลังการสมรสรวมทั้งดอกผลคงเป็นของฝ่ายนั้น ส่วนบรรดาทรัพย์สิน ที่ทำมาหาได้ร่วมกันให้แบ่งคนละครึ่ง เว้นแต่ศาลจะเห็นสมควรสั่งเป็น ประการอื่น เมื่อได้พิเคราะห์ถึงภาระในครอบครัว ภาระในการหาเลี้ยงชีพ และฐานะของคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ตลอดจนพฤติการณ์อื่นทั้งปวงแล้ว
หมายเหตุอ่านมาตรา 1498 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ. แก้ไขเติมปพพ.(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2533 
  • มาตรา 1499 การสมรสที่เป็นโมฆะเพราะฝ่าฝืน มาตรา 1449 มาตรา 1450 หรือ มาตรา 1458 ไม่ทำให้ชายหรือหญิงผู้สมรสโดยสุจริตเสื่อม สิทธิที่ได้มาเพราะการสมรสก่อนมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้เป็นโมฆะ
การสมรสที่เป็นโมฆะเพราะฝ่าฝืน มาตรา 1452 ไม่ทำให้ชายหรือ หญิงผู้สมรสโดยสุจริตเสื่อมสิทธิที่ได้มาเพราะการสมรสก่อนที่ชายหรือ หญิงนั้น รู้ถึงเหตุที่ทำให้การสมรสเป็นโมฆะ แต่การสมรสที่เป็นโมฆะ ดังกล่าวไม่ทำให้คู่สมรสเกิดสิทธิรับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรมของ คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่ง 
การสมรสที่เป็นโมฆะเพราะฝ่าฝืน มาตรา 1449 มาตรา 1450 หรือ มาตรา 1458 หรือฝ่าฝืน มาตรา 1452 ถ้าคู่สมรสฝ่ายใดได้ สมรสโดยสุจริตฝ่ายนั้นมีสิทธิเรียกค่าทดแทนได้ และถ้าการสมรสที่ เป็นโมฆะนั้นทำให้ฝ่ายที่ได้สมรสโดยสุจริตต้องยากจนลง เพราะ ไม่มีรายได้พอจากทรัพย์สิน หรือจากการงานที่เคยทำอยู่ก่อนมี คำพิพากษาถึงที่สุด หรือก่อนที่จะได้รู้ว่าการสมรสของเป็นโมฆะ แล้วแต่กรณี ฝ่ายนั้นมีสิทธิเรียกค่าเลี้ยงชีพได้ด้วยสิทธิเรียกค่า เลี้ยงชีพในกรณีนี้ให้นำ มาตรา 1526 วรรคหนึ่ง และ มาตรา 1528 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
สิทธิเรียกร้องค่าทดแทน หรือค่าเลี้ยงชีพตามวรรคสาม มี กำหนดอายุความสองปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษาถึงที่สุด สำหรับ กรณีการสมรสเป็นโมฆะเพราะฝ่าฝืน มาตรา 1449 มาตรา 1450 หรือ มาตรา 1458 หรือนับแต่วันที่รู้ถึงเหตุที่ทำให้การสมรสเป็นโมฆะ สำหรับกรณีการสมรสเป็นโมฆะเพราะฝ่า ฝืน มาตรา 1452 
หมายเหตุอ่านมาตรา 1499 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ. แก้ไขเติมปพพ.(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2533 
  • มาตรา 1499/1 ในกรณีที่การสมรสเป็นโมฆะ ข้อตกลงระหว่าง คู่สมรสว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุคคลใด หรือฝ่ายใดหรือ ทั้งสองฝ่ายจะเป็นผู้ออกเงินค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรเป็นจำนวนเงิน เท่าใด ให้ทำเป็นหนังสือ หากตกลงกันไม่ได้ให้ศาลเป็นผู้ชี้ขาด ในการพิจารณาชี้ขาดถ้าศาลเห็นว่ามีเหตุที่จะถอนอำนาจปกครองของ คู่สมรสนั้นได้ตาม มาตรา 1582 ศาลจะถอนอำนาจปกครองของคู่สมรส และสั่งให้บุคคลภายนอกเป็นผู้ปกครองก็ได้ ทั้งนี้ ให้ศาลคำนึงถึง ความผาสุกและประโยชน์ของบุตรนั้นเป็นสำคัญ และให้นำความใน มาตรา 1521 มาใช้บังคับโดยอนุโลม 
หมายเหตุอ่านมาตรา 1499/1 เพิ่มเติมโดยพรบ. แก้ไขเติมปพพ.(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2533 
  • มาตรา 1500 การสมรสที่เป็นโมฆะไม่กระทบถึงสิทธิของบุคคลภายนอก ผู้กระทำการโดยสุจริตซึ่งได้มาก่อนมีการบันทึกความเป็นโมฆะไว้ในทะเบียน สมรสตาม มาตรา 1497/1 
หมายเหตุอ่านมาตรา 1500 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ. แก้ไขเติมปพพ.(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2533

เห็นไหมหล่ะคะ หากทำตามกฎหมายไม่เห็นต้องกลัวว่าการแต่งงานของคุณเป็นโมฆะ จะได้ไม่ต้องเสียวกันตอนหลังนะคะ จบเรื่องการเป็นโมฆะของการสมรส เรื่องต่อไปน่ากลัวกว่านี้ค่ะ จะเอาประมวลที่เกี่ยวกับการสมรส ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการหย่าร้าง มาฝาก โอ้ววว ห่างไกลความหวานไปเรื่อยๆเลยค่ะท่านผู้ชม


กฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

กฎหมายเกี่ยวกับการสมรส - เงื่อนไขแห่งการสมรส
วันนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการสมรสมาฝาก หนุ่มๆสาวๆทั้งหลายที่วาดหวังว่าจะเริ่มต้นครอบครัว สิ่งที่พวกเขาต้องกระทำเพื่อสร้างพันธะระหว่างกันคือการแต่งงาน หรือการสมรสนั่นเอง ดังนั้นกฎหมายด้านการแต่งงานทุกคนควรจะมีความรู้เรื่องนี้ เป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆเลยทีเดียว มาดูกันว่าประมวลกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสมรสมีอะไรบ้าง - อ่านต่อ


กฎหมายเกี่ยวกับการสมรส - การหมั้น
มาต่อกันในเนื้อหาที่ค้างไว้ว่าจะเอามาฝากค่ะ หลังจากที่พูดถึงเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวกับการแต่งงานแล้ว มาคราวนี้จะคุยถึงเรื่องการหมั่นค่ะ ซึ่งก็สำคัญไม่ต่างกันเลย ที่ท่านพึงต้องรู้ก่อนการหมั้นและการแต่งงาน - อ่านต่อ



กฎหมายเกี่ยวกับการสมรส - ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยา
หลังจากแต่งงานไปแล้ว สามี ภรรยา ก็ยังต้องมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการอยู่กินด้วยกัน การอุปการะเลี้ยงดูกันและกัน รวมไปถึงเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดเป็นผู้ไร้ความสามารถ หรือวิกลจริต จะทำอย่างไร วันนี้ประมวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยามาฝาก - อ่านต่อ


กฎหมายเกี่ยวกับการสมรส - ทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา

กลับมาดูเรื่องการแต่งงานอีกครั้งค่ะ สำหรับวันนี้จะคุยกันถึงประมวลกฎหมายที่เกี่ยวกับทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา หลังคู่สมรสแต่งงานแล้ว จะมีเรื่องทรัพย์สินระหว่างสมรส สินสมรส ซึ่งคู่สมรสต้องเข้าใจกฎหมายด้านนี้ เพื่อจะได้เข้าใจเงื่อนไขต่างๆ  - อ่านต่อ


กฎหมายเกี่ยวกับการสมรส - ความเป็นโมฆะของการสมรส
สำหรับหัวข้อนี้ฟังชื่อแล้วดูน่ากลัวพิกล แต่หากว่าทำตามที่กฎหมายบัญญัติอะไรก็ไม่น่ากลัว มาดูกันว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ5 ครอบครัว ลักษณะ1 การสมรส หมวด5 ความเป็นโมฆะของการสมรส จะเป็นอย่างไร อย่าเพิ่งตกใจกลัวและปิดไปก่อนนะคะ คู่รักทุกคนต้องอ่านก่อนแต่งนะคะ อ่านต่อ




กฎหมายเกี่ยวกับการสมรส - การสิ้นสุดแห่งการสมรสhttp://commonlaw1.blogspot.com/2014/02/blog-post_7789.html
หลายคู่สมรส ตอนแต่งใหม่ๆน้ำต้มผักก็ว่าหวาน แต่พอผ่านไปสักพัก หลายคู่ก็ไม่ได้จับมือกันไปจนถึงบั้นปลายชีวิต อาจจะต้องมีการหย่าร้างเกิดขึ้น วันนี้เลยเอาประมวลกฎหมายที่ประกอบด้วยเรื่องการสิ้นสุดแห่งการสมรสมาฝากค่ะ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ5 ครอบครัว ลักษณะ1 การสมรส หมวด6 การสิ้นสุดแห่งการสมรส ... อ่านต่อ


กฎหมายเกี่ยวกับการสมรส - ทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา

กลับมาดูเรื่องการแต่งงานอีกครั้งค่ะ สำหรับวันนี้จะคุยกันถึงประมวลกฎหมายที่เกี่ยวกับทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา หลังคู่สมรสแต่งงานแล้ว จะมีเรื่องทรัพย์สินระหว่างสมรส สินสมรส ซึ่งคู่สมรสต้องเข้าใจกฎหมายด้านนี้ เพื่อจะได้เข้าใจเงื่อนไขต่างๆ 



ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ5 ครอบครัว ลักษณะ1 การสมรส 
มวด4 ทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา 
  • มาตรา 1465 ถ้าสามีภริยามิได้ทำสัญญากันไว้ในเรื่องทรัพย์สินเป็น พิเศษก่อนสมรส ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยาในเรื่องทรัพย์สินนั้น ให้บังคับ ตามบทบัญญัติในหมวดนี้
ถ้าข้อความใดในสัญญาก่อนสมรสขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม อันดีของประชาชน หรือระบุให้ใช้กฎหมายประเทศอื่นบังคับเรื่องทรัพย์สินนั้น ข้อความนั้น ๆ เป็นโมฆะ
  • มาตรา 1466 สัญญาก่อนสมรสเป็นโมฆะ ถ้ามิได้จดแจ้งข้อตกลงกันเป็น สัญญาก่อนสมรสนั้นไว้ในทะเบียนสมรสพร้อมกับการจดทะเบียนสมรส หรือ มิได้ทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อคู่สมรสและพยานอย่างน้อยสองคนแนบไว้ ท้ายทะเบียนและได้จดไว้ในทะเบียนสมรสพร้อมกับการจดทะเบียน สมรสว่าได้มีสัญญานั้นแนบไว้ 
  • มาตรา 1467 เมื่อสมรสแล้วจะเปลี่ยนแปลงเพิกถอนสัญญาก่อนสมรสนั้น ไม่ได้ นอกจากจะได้รับอนุญาตจากศาล
เมื่อได้มีคำสั่งของศาลถึงที่สุดให้เปลี่ยนแปลงเพิกถอนสัญญาก่อนสมรสแล้ว ให้ศาลแจ้งไปยังนายทะเบียนสมรสเพื่อจดแจ้งไว้ในทะเบียนสมรส 

  • มาตรา 1468 ข้อความในสัญญาก่อนสมรสไม่มีผลกระทบกระเทือนถึง สิทธิของบุคคลภายนอกผู้ทำการโดยสุจริตไม่ว่าจะได้เปลี่ยนแปลงเพิกถอน โดยคำสั่งของศาลหรือไม่ก็ตาม 
  • มาตรา 1469 สัญญาที่เกี่ยวกับทรัพย์สินใดที่สามีภริยาได้ทำไว้ต่อกัน ในระหว่างเป็นสามีภริยากันนั้น ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะบอกล้างเสียในเวลาใด ที่เป็นสามีภริยากันอยู่ หรือภายในกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันที่ขาดจากการ เป็นสามีภริยากันก็ได้ แต่ไม่กระบทกระเทือนถึงสิทธิของบุคคลภายนอก ผู้ทำการโดยสุจริต 
  • มาตรา 1470 ทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา นอกจากที่ได้แยกไว้เป็นสิน ส่วนตัว ย่อมเป็นสินสมรส 
  • มาตรา 1471 สินส่วนตัวได้แก่ทรัพย์สิน
    • (1) ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีอยู่ก่อนสมรส
    • (2) ที่เป็นเครื่องใช้สอยส่วนตัว เครื่องแต่งกาย หรือเครื่องประดับ กายตามควรแก่ฐานะ หรือเครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเป็นในการประกอบอาชีพ หรือวิชาชีพของคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
    • (3) ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้มาระหว่างสมรสโดยการรับมรดก หรือโดย การให้โดยเสน่หา
    • (4) ที่เป็นของหมั้น 
  • มาตรา 1472 สินส่วนตัวนั้น ถ้าได้แลกเปลี่ยนเป็นทรัพย์สินอื่นก็ดี ซื้อ ทรัพย์สินอื่นมาก็ดี หรือขายได้เป็นเงินมาก็ดี ทรัพย์สินอื่นหรือเงินที่ได้มา นั้นเป็นสินส่วนตัว 
สินส่วนตัวที่ถูกทำลายไปทั้งหมดหรือแต่บางส่วน แต่ได้ทรัพย์สินอื่นหรือ เงินมาทดแทน ทรัพย์สินอื่นหรือเงินที่ได้มานั้นเป็นสินส่วนตัว 

  • มาตรา 1473 สินส่วนตัวของคู่สมรสฝ่ายใดให้ฝ่ายนั้นเป็นผู้จัดการ 
  • มาตรา 1474 สินสมรสได้แก่ทรัพย์สิน
    • (1) ที่คู่สมรสได้มาระหว่างสมรส
    • (2) ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้มาระหว่างสมรสโดยพินัยกรรมหรือโดย การให้เป็นหนังสือเมื่อพินัยกรรมหรือหนังสือยกให้ระบุว่าเป็นสินสมรส
    • (3) ที่เป็นดอกผลของสินส่วนตัว
ถ้ากรณีเป็นที่สงสัยว่าทรัพย์สินอย่างหนึ่งเป็นสินสมรสหรือมิใช่ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นสินสมรส 
  • มาตรา 1475 ถ้าสินสมรสใดเป็นจำพวกที่ระบุไว้ใน มาตรา 456 แห่งประมวลกฎหมายนี้ หรือที่มีเอกสารเป็นสำคัญ สามีหรือภริยา จะร้องขอให้ลงชื่อตนเป็นเจ้าของรวมกันในเอกสารนั้นก็ได้ 
  • มาตรา 1476 สามีและภริยาต้องจัดการสินสมรสร่วมกันหรือได้รับความ ยินยอมจากอีกฝ่ายหนึ่ง ในกรณีดังต่อไปนี้
    • (1) ขาย แลกเปลี่ยน ขายฝาก ให้เช่าซื้อ จำนอง ปลดจำนอง หรือ โอนสิทธิจำนองซึ่งอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์ที่อาจจำนองได้
    • (2) ก่อตั้งหรือกระทำให้สุดสิ้นลงทั้งหมดหรือบางส่วนซึ่งภาระจำยอม สิทธิอาศัย สิทธิเหนือพื้นดิน สิทธิเก็บกิน หรือภาระติดพันในอสังหาริมทรัพย์
    • (3) ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์เกินสามปี
    • (4) ให้กู้ยืมเงิน
    • (5) ให้โดยเสน่หา เว้นแต่การให้ที่พอควรแก่ฐานานุรูปของครอบครัว เพื่อการกุศล เพื่อการสังคม หรือตามหน้าที่ธรรมจรรยา
    • (6) ประนีประนอมยอมความ
    • (7) มอบข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย
    • (8) นำทรัพย์สินไปเป็นประกัน หรือหลักประกันต่อเจ้าพนักงานหรือศาล
การจัดการสินสมรสนอกจากกรณีที่บัญญัติไว้ในวรรคหนึ่ง สามีหรือภริยา จัดการได้มิต้องได้รับความยินยอมจากอีกฝ่ายหนึ่ง
หมายเหตุอ่านมาตรา 1476 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ. แก้ไขเพิ่มเติมปพพ.(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2533

  • มาตรา 1476/1 สามีและภริยาจะจัดการสินสมรสให้แตกต่างไปจากที่ บัญญัติไว้ใน มาตรา 1476ทั้งหมดหรือบางส่วนได้ก็ต่อเมื่อได้ทำสัญญาก่อน สมรสไว้ตามที่บัญญัติใน มาตรา 1465 และ มาตรา 1466 ในกรณีดังกล่าวนี้ การจัดการสินสมรสให้เป็นไปตามที่ระบุไว้ในสัญญาก่อนสมรส
ในกรณีที่สัญญาก่อนสมรสระบุการจัดการสินสมรสไว้แต่เพียงบางส่วนของ มาตรา 1476 การจัดการสินสมรสนอกจากที่ระบุไว้ในสัญญาก่อนสมรสให้ เป็นไปตาม มาตรา 1476 
หมายเหตุอ่านมาตรา 1476/1 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ. แก้ไขเพิ่มเติมปพพ.(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2533

  • มาตรา 1477 สามีภริยาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีสิทธิฟ้อง ต่อสู้ หรือดำเนินคดี เกี่ยวกับการสงวนบำรุงรักษาสินสมรส หรือเพื่อประโยชน์แก่สินสมรส หนี้อัน เกิดแต่การฟ้อง ต่อสู้ หรือดำเนินคดีดังกล่าว ให้ถือว่าเป็นหนี้ที่สามีภริยาเป็น ลูกหนี้ร่วมกัน
หมายเหตุอ่านมาตรา 1477 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ. แก้ไขเพิ่มเติมปพพ.(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2533
  • มาตรา 1478 เมื่อฝ่ายใดต้องให้ความยินยอมหรือลงชื่อกับอีกฝ่ายหนึ่ง ในเรื่องจัดการทรัพย์สินแต่ไม่ให้ความยินยอมหรือไม่ยอมลงชื่อ โดยปราศจาก เหตุผล หรือไม่อยู่ในสภาพที่อาจให้ความยินยอมได้ อีกฝ่ายหนึ่งอาจร้องขอต่อ ศาลให้สั่งอนุญาตแทนได้ 
  • มาตรา 1479 การใดที่สามีหรือภริยากระทำ ซึ่งต้องรับความยินยอม ร่วมกัน และถ้าการนั้นมีกฎหมายบัญญัติให้ทำเป็นหนังสือหรือให้จด ทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ความยินยอมนั้นต้องทำเป็นหนังสือ 
  • มาตรา 1480 การจัดการสินสมรสซึ่งต้องจัดการร่วมกัน หรือต้องได้รับ ความยินยอมจากอีกฝ่ายหนึ่งตาม มาตรา 1476 ถ้าคู่สมรสฝ่ายหนึ่งได้ ทำนิติกรรมไปแต่เพียงฝ่ายเดียว หรือโดยปราศจากความยินยอมของคู่ สมรสอีกฝ่ายหนึ่ง คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งอาจฟ้องให้ศาลเพิกถอนนิติกรรม นั้นได้ เว้นแต่คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งได้ให้สัตยาบันแก่นิติกรรมนั้นแล้ว หรือ ในขณะที่ทำนิติกรรมนั้นบุคคลภายนอกได้กระทำโดยสุจริตและเสียค่า ตอบแทน
การฟ้องให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมตามวรรคหนึ่ง ห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้น หนึ่งปีนับแต่วันที่ได้รู้เหตุอันเป็นมูลให้เพิกถอนหรือเมื่อพ้นสิบปีนับแต่ วันที่ได้ทำนิติกรรมนั้น
หมายเหตุอ่านมาตรา 1480 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ. แก้ไขเพิ่มเติมปพพ.(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2533
  • มาตรา 1481 สามีหรือภริยาไม่มีอำนาจทำพินัยกรรมยกสินสมรส ที่เกินกว่าส่วนของตนให้แก่บุคคลใดได้ 
  • มาตรา 1482 ในกรณีที่สามีหรือภริยามีอำนาจจัดการสินสมรสแต่ฝ่าย เดียว คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งก็ยังมีอำนาจจัดการบ้านเรือนและจัดหาสิ่งจำเป็น สำหรับครอบครัวตามสมควรแก่อัตภาพได้ ค่าใช้จ่ายในการนี้ย่อมผูกพัน สินสมรสและสินส่วนตัวของทั้งสองฝ่าย
ถ้าสามีหรือภริยาจัดการบ้านเรือนหรือจัดหาสิ่งจำเป็นสำหรับครอบครัว เป็นที่เสียหายถึงขนาด อีกฝ่ายหนึ่งอาจร้องขอให้ศาลสั่งห้ามหรือจำกัด อำนาจนี้เสียได้
หมายเหตุอ่านมาตรา 1482 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ. แก้ไขเพิ่มเติมปพพ.(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2533
  • มาตรา 1483 ในกรณีที่สามีหรือภริยามีอำนาจจัดการสินสมรสแต่ฝ่าย เดียว ถ้าสามีหรือภริยาจะกระทำหรือกำลังกระทำการอย่างไรอย่างหนึ่งใน การจัดการสินสมรส อันพึงเห็นได้ว่าจะเกิดความเสียหายถึงขนาด อีกฝ่าย หนึ่งอาจร้องขอให้ศาลสั่งห้ามมิให้กระทำการนั้นได้ 
หมายเหตุอ่านมาตรา 1483 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ. แก้ไขเพิ่มเติมปพพ.(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2533
  • มาตรา 1484 ถ้าสามีหรือภริยาฝ่ายซึ่งมีอำนาจจัดการสินสมรส
    • (1) จัดการสินสมรสเป็นที่เสียหายถึงขนาด
    • (2) ไม่อุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่ง
    • (3) มีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือทำหนี้เกินกึ่งหนึ่งของสินสมรส
    • (4) ขัดขวางการจัดการสินสมรสของอีกฝ่ายหนึ่งโดยไม่มีเหตุผลอัน สมควร
    • (5) มีพฤติการณ์ปรากฏว่าจะทำความหายนะให้แก่สินสมรส
อีกฝ่ายหนึ่งอาจร้องขอให้ศาลสั่งอนุญาตให้ตนเป็นผู้จัดการสินสมรส แต่ผู้เดียว หรือสั่งให้แยกสินสมรสได้
ในกรณีตามวรรคหนึ่ง ถ้ามีคำขอ ศาลอาจกำหนดวิธีคุ้มครอง ชั่วคราวเพื่อจัดการสินสมรสได้ตามที่เห็นสมควร และหากเป็นกรณี ฉุกเฉินให้นำบทบัญญัติเรื่องคำขอในเหตุฉุกเฉินตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับ 
หมายเหตุอ่านมาตรา 1484 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ. แก้ไขเพิ่มเติมปพพ.(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2533
  • มาตรา 1484/1 ในกรณีที่ศาลได้มีคำสั่งห้ามหรือจำกัดอำนาจในการ จัดการสินสมรสของสามีหรือภริยาตาม มาตรา 1482 มาตรา 1483 หรือ มาตรา 1484 ถ้าต่อมาเหตุแห่งการนั้นหรือพฤติการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไป สามีหรือภริยาอาจร้องขอต่อศาลให้ยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงคำสั่งที่ห้าม หรือจำกัดอำนาจจัดการสินสมรสนั้นได้ ในการนี้ศาลจะมีคำสั่งใดๆ ตามที่เห็นสมควรก็ได้ 
หมายเหตุอ่านมาตรา 1484/1 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ. แก้ไขเพิ่มเติมปพพ.(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2533 (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2533 
  • มาตรา 1485 สามีหรือภริยาอาจร้องขอต่อศาลให้ตนเป็นผู้จัดการ สินสมรสโดยเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือเข้าร่วมจัดการในการนั้นได้ ถ้าการที่จะทำเช่นนั้นจะเป็นประโยชน์ยิ่งกว่า 
  • มาตรา 1486 เมื่อศาลได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งถึงที่สุดตามความใน มาตรา 1482 วรรคสองมาตรา 1483 มาตรา 1484 มาตรา 1484/1 หรือ มาตรา 1485 อันเป็นคุณแก่ผู้ร้องขอ หรือตาม มาตรา 1491 มาตรา 1492/1 หรือ มาตรา 1598/17 หรือเมื่อสามีหรือภริยาพ้นจากการเป็นบุคคล ล้มละลาย ให้ศาลแจ้งไปยังนายทะเบียนเพื่อจดแจ้งไว้ในทะเบียนสมรส 
หมายเหตุอ่านมาตรา 1486 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ. แก้ไขเพิ่มเติมปพพ.(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2533
  • มาตรา 1487 ในระหว่างที่เป็นสามีภริยากัน ฝ่ายใดจะยึดหรืออายัด ทรัพย์สินของอีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้ เว้นแต่เป็นการยึดหรืออายัดทรัพย์สินใน คดีที่ฟ้องร้องเพื่อการปฏิบัติหน้าที่หรือรักษาสิทธิระหว่างสามีภริยาตามที่ บัญญัติไว้โดยเฉพาะในประมวลกฎหมายนี้ หรือที่ประมวลกฎหมายนี้ บัญญัติไว้โดยเฉพาะให้สามีภริยาฟ้องร้องกันเองได้ หรือเป็นการยึดหรือ อายัดทรัพย์สินสำหรับค่าอุปการะเลี้ยงดูและค่าฤชาธรรมเนียมที่ยังมิได้ ชำระตามคำพิพากษาของศาล 
หมายเหตุอ่านมาตรา 1487 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ. แก้ไขเพิ่มเติมปพพ.(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2533
  • มาตรา 1488 ถ้าสามีหรือภริยาต้องรับผิดเป็นส่วนตัวเพื่อชำระหนี้ก่อไว้ ก่อนหรือระหว่างสมรส ให้ชำระหนี้นั้นด้วยสินส่วนตัวของฝ่ายนั้นก่อน เมื่อไม่ พอจึงให้ชำระด้วยสินสมรสที่เป็นส่วนของฝ่ายนั้น 
  • มาตรา 1489 ถ้าสามีภริยาเป็นลูกหนี้ร่วมกัน ให้ชำระหนี้นั้นจาก สินสมรสและสินส่วนตัวของทั้งสองฝ่าย 
  • มาตรา 1490 หนี้ที่สามีภริยาเป็นลูกหนี้ร่วมกันนั้นให้รวมถึงหนี้ที่สามี หรือภริยาก่อให้เกิดขึ้นในระหว่างสมรสดังต่อไปนี้
    • (1) หนี้เกี่ยวแก่การจัดการบ้านเรือน และจัดหาสิ่งจำเป็นสำหรับครอบ ครัว การอุปการะเลี้ยงดูตลอดถึงการรักษาพยาบาลบุคคลในครอบครัวและ การศึกษาของบุตรตามสมควรแก่อัตภาพ
    • (2) หนี้ที่เกี่ยวข้องกับสินสมรส
    • (3) หนี้ที่เกิดขึ้นเนื่องจากการงานซึ่งสามีภริยาทำด้วยกัน
    • (4) หนี้ที่สามีหรือภริยาก่อขึ้นเพื่อประโยชน์ตนฝ่ายเดียว แต่อีกฝ่ายหนึ่ง ได้ให้สัตยาบัน
หมายเหตุอ่านมาตรา 1490 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ. แก้ไขเพิ่มเติมปพพ.(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2533
  • มาตรา 1491 ถ้าสามีหรือภริยาต้องคำพิพากษาให้ล้มละลาย สินสมรส ย่อมแยกจากกันโดยอำนาจกฎหมายนับแต่วันที่ศาลพิพากษาให้ล้มละลายนั้น 
  • มาตรา 1492 เมื่อได้แยกสินสมรสตาม มาตรา 1484 วรรคสอง มาตรา 1491 หรือ มาตรา 1598/17 วรรคสอง แล้ว ให้ส่วนที่แยกออก ตกเป็นสินส่วนตัวของสามีหรือภริยา และบรรดาทรัพย์สินที่ฝ่ายใดได้ มาในภายหลังไม่ให้ถือเป็นสินสมรส แต่ให้เป็นสินส่วนตัวของฝ่ายนั้น และสินสมรสที่คู่สมรสได้มาโดยพินัยกรรม หรือโดยการให้เป็นหนังสือ ตาม มาตรา 1474 (2) ในภายหลัง ให้ตกเป็นสินส่วนตัวของสามีและ ภริยาฝ่ายละครึ่ง
ดอกผลของสินส่วนตัวที่ได้มาหลังจากที่ได้แยกสินสมรสแล้วให้เป็นสิน ส่วนตัว 
หมายเหตุอ่านมาตรา 1492 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ. แก้ไขเพิ่มเติมปพพ.(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2533
  • มาตรา 1492/1 ในกรณีที่มีการแยกสินสมรสโดยคำสั่งศาลการยกเลิก การแยกสินสมรสให้กระทำได้เมื่อสามีหรือภริยาร้องขอต่อศาลและศาลได้มีคำ สั่งให้ยกเลิก แต่ถ้าภริยาหรือสามีคัดค้านศาลจะสั่งยกเลิกการแยกสินสมรสได้ ต่อเมื่อเหตุแห่งการแยกสินสมรสได้สิ้นสุดลงแล้ว 
เมื่อมีการยกเลิกการแยกสินสมรสตามวรรคหนึ่ง หรือการแยกสินสมรส สิ้นสุดลงเพราะสามีหรือภริยาพ้นจากการเป็นบุคคลล้มละลายให้ทรัพย์สินที่เป็น สินส่วนตัวอยู่ในวันที่ศาลมีคำสั่ง หรือในวันที่พ้นจากการเป็นบุคคลล้มละลาย ยังคงเป็นสินส่วนตัวต่อไปตามเดิม 
หมายเหตุ มาตรา 1492/1 เพิ่มเติมโดยพรบ. แก้ไขเพิ่มเติมปพพ.(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2533
  • มาตรา 1493 ในกรณีที่ไม่มีสินสมรสแล้ว สามีและภริยาต้องช่วยกันออก ค่าใช้สอยสำหรับการบ้านเรือนตามส่วนมากและน้อยแห่งสินส่วนตัวของตน
ทั้งหมดนี้เป็นประมวลกฎหมายที่เกี่ยวกับทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา ที่คู่สมรสต้องเข้าใจและทำความเข้าใจประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เรื่อง ทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา  เป็นเรื่องใกล้ตัวที่บางคู่อาจจะมองข้ามที่จะทำความเข้าใจ ในเนื้อหาต่อไปจะกล่าวถึงกฎหมายเที่เกี่ยวกับการสมรสที่ค้างอยู่อีก โปรดช่วยติดตามกันต่อไปนะคะ


กฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

วันนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการสมรสมาฝาก หนุ่มๆสาวๆทั้งหลายที่วาดหวังว่าจะเริ่มต้นครอบครัว สิ่งที่พวกเขาต้องกระทำเพื่อสร้างพันธะระหว่างกันคือการแต่งงาน หรือการสมรสนั่นเอง ดังนั้นกฎหมายด้านการแต่งงานทุกคนควรจะมีความรู้เรื่องนี้ เป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆเลยทีเดียว มาดูกันว่าประมวลกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสมรสมีอะไรบ้าง - อ่านต่อ
มาต่อกันในเนื้อหาที่ค้างไว้ว่าจะเอามาฝากค่ะ หลังจากที่พูดถึงเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวกับการแต่งงานแล้ว มาคราวนี้จะคุยถึงเรื่องการหมั่นค่ะ ซึ่งก็สำคัญไม่ต่างกันเลย ที่ท่านพึงต้องรู้ก่อนการหมั้นและการแต่งงาน - อ่านต่อ



หลังจากแต่งงานไปแล้ว สามี ภรรยา ก็ยังต้องมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการอยู่กินด้วยกัน การอุปการะเลี้ยงดูกันและกัน รวมไปถึงเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดเป็นผู้ไร้ความสามารถ หรือวิกลจริต จะทำอย่างไร วันนี้ประมวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยามาฝาก - อ่านต่อ
กลับมาดูเรื่องการแต่งงานอีกครั้งค่ะ สำหรับวันนี้จะคุยกันถึงประมวลกฎหมายที่เกี่ยวกับทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา หลังคู่สมรสแต่งงานแล้ว จะมีเรื่องทรัพย์สินระหว่างสมรส สินสมรส ซึ่งคู่สมรสต้องเข้าใจกฎหมายด้านนี้ เพื่อจะได้เข้าใจเงื่อนไขต่างๆ  - อ่านต่อ


สำหรับหัวข้อนี้ฟังชื่อแล้วดูน่ากลัวพิกล แต่หากว่าทำตามที่กฎหมายบัญญัติอะไรก็ไม่น่ากลัว มาดูกันว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ5 ครอบครัว ลักษณะ1 การสมรส หมวด5 ความเป็นโมฆะของการสมรส จะเป็นอย่างไร อย่าเพิ่งตกใจกลัวและปิดไปก่อนนะคะ คู่รักทุกคนต้องอ่านก่อนแต่งนะคะ อ่านต่อ


หลายคู่สมรส ตอนแต่งใหม่ๆน้ำต้มผักก็ว่าหวาน แต่พอผ่านไปสักพัก หลายคู่ก็ไม่ได้จับมือกันไปจนถึงบั้นปลายชีวิต อาจจะต้องมีการหย่าร้างเกิดขึ้น วันนี้เลยเอาประมวลกฎหมายที่ประกอบด้วยเรื่องการสิ้นสุดแห่งการสมรสมาฝากค่ะ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ5 ครอบครัว ลักษณะ1 การสมรส หมวด6 การสิ้นสุดแห่งการสมรส ... อ่านต่อ

คลังบทความของบล็อก